นายฮิโรฮิเดะ ยามากุจิ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ผลักดันให้ธนาคารของญี่ปุ่นเพิ่มความพยายามในการสร้างฐานเงินทุนให้แข็งแกร่ง เพื่อลดภาวะเปราะบางและความอ่อนไหวในการรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของธนาคาร ตลอดจนเตรียมพร้อมสำหรับมาตรฐานด้านเงินทุนทั่วโลกที่มีความเข้มงวดมากขึ้น
ธนาคารในญี่ปุ่นของญี่ปุ่นกำลังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันให้เพิ่มฐานเงินทุน ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกหารือเรื่องการใช้มาตรฐานด้านเงินอย่างเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตการเงินขึ้นมาอีก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อิงค์ ได้เปิดเผยถึงแผนการระดมทุนมูลค่า 1 ล้านล้านเยน ด้วยการขายหุ้นสามัญ
รองผู้ว่าการบีโอเจกล่าวต่อไปว่า ความสำคัญในการเพิ่มฐานเงินทุนนั้นถือเป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่จะซึมซับภาวะขาดทุน และถือเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องหาทางออกให้กับการถือครองหลักทรัพย์จำนวนมหาศาลของธนาคารในญี่ปุ่น เพราะการดำเนินการดังกล่าวทำให้รายได้ของธนาคารมีความอ่อนไหวต่อความผันผวนในตลาดหุ้น
ที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นจะถือหุ้นของลูกค้าของธนาคารไว้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ซึ่งรองผู้ว่าการบีโอเจกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ธนาคารของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงินโลก โดยความสามารถในการทำกำไรของสถาบันการเงินญี่ปุ่นนั้นอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะการให้บริการในส่วนของการปล่อยกู้และการฝาก ขณะที่ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากนั้นโดยเฉลี่ยต่ำกว่า 2% สำหรับสถาบันการเงินในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าธนาคารในสหรัฐ 5-6%