World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2552

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 25, 2009 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้ประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ครั้งที่สอง โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 2.8%ต่อปี เมื่อเทียบกับการประมาณการครั้งก่อนที่ระบุว่าขยายตัว 3.5% ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของสหรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า หลังจากยอดขาดดุลการค้าพุ่งขึ้นรุนแรง และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคร่วงลง

-- ดัชนีราคาบ้านของ Standard & Poor`s/Case-Shiller ระบุว่า ราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น 0.3% แตะที่ 144.96 จุดในเดือนก.ย. ซึ่งนับเป็นการพุ่งสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนี้ ดัชนีราคาบ้านที่เปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลายังพุ่งสูงขึ้น 3% จากระดับต่ำสุดในเดือนพ.ค. แต่ต่ำกว่าระดับ 30% จากจุดสูงสุดในเดือนเม.ย.2549

-- ญี่ปุ่นเปิดเผยว่ายอดส่งออกหดตัวในอัตราที่ช้าสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลกช่วยกระตุ้นดีมานด์ ส่งผลให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงสุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

-- สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคพุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 49.5 จุดในเดือนพ.ย. จากระดับ 48.7 จุดในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 47.7 จุด

-- ธนาคารกลางมาเลเซียประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 2% ในการประชุมวันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ

-- บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) อาจจะปิดกิจการซาบ (Saab) หลังจากที่ Koenigsegg Group AB ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตได้ยกเลิกแผนการซื้อกิจการรถสัญชาติสวีเดน โดยบอร์ดของจีเอ็มจะทบทวนอนาคตของซาบอีกครั้งในการประชุมวันที่ 1 ธ.ค.นี้

-- ธนาคารกลางเวียดนามประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1% เป็น 8% จากเดิมที่ระดับ 7% โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งนับเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 เดือน นอกจากนี้ ธนาคารกลางเวียดนามยังประกาศลดช่วงการซื้อขายเงินดองลงสู่ระดับ 3% จากเดิมที่ระดับ 5% โดยให้มีผลในวันพรุ่งนี้

-- นายฮิโรฮิเดะ ยามากุจิ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ผลักดันให้ธนาคารของญี่ปุ่นเพิ่มความพยายามในการสร้างฐานเงินทุนให้แข็งแกร่ง เพื่อลดภาวะเปราะบางและความอ่อนไหวในการรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของธนาคาร ตลอดจนเตรียมพร้อมสำหรับมาตรฐานด้านเงินทุนทั่วโลกที่มีความเข้มงวดมากขึ้น

-- ธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงินดอง โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ค่ากลางของเงินดองลดลงราว 5.2% แตะที่ระดับ 17,951 ดอง/ดอลลาร์ เมื่อเทียบกับวานนี้ที่ระดับ 17,034 ดอง/ดอลลาร์

-- สำนักงานกำกับดูแลด้านการแลกเปลี่ยนเงินตราแห่งรัฐ (State Administration of Foreign Exchange) ของจีนออกข้อบังคับห้ามมิให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในต่างประเทศดำเนินธุรกรรมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศกับเงินหยวนมากกว่า 5 สกุลเงินขึ้นไปในภายหนึ่งวัน หรือดำเนินธุรกรรมดังกล่าวนาน 2 วันติดต่อกัน นอกจากนี้ ยังสั่งห้ามมิให้นักลงทุนรายย่อยในฮ่องกงส่งคำสั่งซื้อมากกว่า 20,000 หยวนต่อวัน และกำหนดเพดานการสั่งซื้อสกุลเงินรายวันสำหรับนักลงทุนในประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ