สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) และทำสถิติปิดบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบ 27 ปี เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลง และจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางอินเดียอาจซื้อทองคำจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพิ่มขึ้นอีก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,187.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 21.20 ดอลลาร์ เคลื่อนตัวในช่วง 1,166.80-1,189.40 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 18.768 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 31.30 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดขึ้น 5.35 เซนต์ ปิดที่ 3.197 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,479.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 35.70 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 370.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์ในแวดวงอุตสาหกรรมทองคำของสหรัฐกล่าวว่า นักลงทุนแห่เข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล โครนิเคิลรายงานว่า ธนาคารกลางอินเดียจะซื้อทองคำจากไอเอ็มเอฟเพิ่มขึ้นอีก หลังจากเข้าซื้อไปแล้วในปริมาณ 200 ตัน มูลค่า 6.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงต้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อหลังจากรัฐบาลทั่วโลกอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
นอกเหนือจากธนาคารกลางอินเดียแล้ว เมื่อไม่นานมานี้ธนาคารกลางมอริเชียสได้ซื้อทองคำ 2 ตันจากไอเอ็มเอฟ มูลค่าประมาณ 71.7 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ธนาคารกลางศรีลังกายังวางแผนเข้าซื้อทองคำด้วย ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าจะมีธนาคารกลางแห่งอื่นๆเริ่มหันมากระจายความเสี่ยงด้วยการนำเม็ดเงินในทุนสำรองออกมาซื้อทองคำ
สัญญาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนับตั้งแต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง โดยดัชนี U.S. Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลเงิน ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน
ตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.เนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า) และจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.นี้