ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงหนักสุดในรอบ 15 เดือน หลัง FED ระบุดอลล์อ่อนไม่กระทบศก.

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 26, 2009 07:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้แสดงความวิตกกังวลต่อสกุลเงินดอลลาร์ที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้นักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า รวมถึงยูโรและดอลลาร์ออสเตรเลีย

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 1.19% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.5138 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4960 ยูโร/ดอลลาร์และดิ่งลง 1.40% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 87.320 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 88.560 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์ร่วงลง 1.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9962 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.0090 ฟรังค์/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.84% เมื่อเทียบกับปอนด์ที่ 1.6713 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6573 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.39% แตะที่ 0.9314 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันอังคารที่ 0.9186 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดขึ้น 0.98% แตะที่ 0.7316 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7245 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์ในตลาดเงินกล่าวว่า นักลงทุนกระหน่ำขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างหนักหลังจากคณะกรรมการเฟดกล่าวว่าการร่วงลงของดอลลาร์ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0 - 0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขว่างงานประจำสัปดาห์และยอดขายบ้านของสหรัฐที่ออกมาดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์หลังจากที่เคยมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดความเสี่ยงในยามเศรษฐกิจเปราะบาง

การที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำติดต่อกันนานหลายไตรมาสทำให้นายบิล กรอส ประธานบริหารแปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) เตือนว่าสหรัฐมีความเสี่ยงในเชิงระบบ เนื่องจากภาวะฟองสบู่ด้านสินทรัพย์ครั้งใหม่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ นายกรอสเตือนว่า สหรัฐอาจเผชิญกับสถานการณ์แบบ "new normal" หรือภาวะที่ประสิทธิภาพในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลต่ำกว่าเป้าหมาย, อัตราการอุปโภคบริโภคต่ำ, อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำลง และภาวะที่เศรษฐกิจสหรัฐมีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกน้อยลง

ตัวเลขชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานลดลง 35,000 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เหลือเพียง 466,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 6.2% แตะระดับ 430,000 ยูนิต/ปี มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% แตะที่ 405,000 ยูนิต/ปี และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนต.ค.ที่ดีดตัวขึ้น 0.7% ทำสถิติเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 3 เดือน

ตลาดเงินนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย.เนื่องในวัน Thanksgiving (วันขอบคุณพระเจ้า) และจะเปิดทำการเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 27 พ.ย.นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ