บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมเสนอให้มีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงประมาณ 17% ภายในปี 2563 ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในกรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก วันที่ 9 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นความพยายามในการยุติภาวะชะงักงันระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจน
รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวถึงการเดินทางไปร่วมการประชุมครั้งนี้ว่า ผู้นำสหรัฐจะช่วยผลักดันให้เกิดความคืบหน้าในการเจรจาต่อรอง และคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ
จุดยืนของผู้นำสหรัฐถือเป็นการตอกย้ำว่า สหรัฐจะไม่เข้าร่วมการประชุมแบบมือเปล่า หลังจากที่สหรัฐและจีนซึ่งเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาลปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญาเกียวโต นอกจากนี้ แผนการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลงยังเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก และยังเป็นครั้งแรกที่สหรัฐได้กำหนดตัวเลขเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อออกสนธิสัญญาสภาพอากาศโลกฉบับใหม่ต้องชะลอตัวลง เนื่องจากประเทศอุตสาหกรรมและประเทศกำลังพัฒนาไม่สามารถให้ความเห็นชอบในประเด็นต่างๆได้ เช่น เป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และประเด็นเรื่องขอบเขตที่ประเทศร่ำรวยจะช่วยเหลือประเทศยากจน
ทางด้านผู้บริหารของ สำนักเลขาธิการอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) กล่าวว่า การเข้าร่วมการประชุมของผู้นำสหรัฐถือเป็นเรื่องที่สำคัญ โลกจับตาดูอยู่ว่า สหรัฐจะกำหนดเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าใด รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก