World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2552

ข่าวต่างประเทศ Thursday November 26, 2009 16:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (อีไอเอ) ในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 พ.ย.เพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 337.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล

-- สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ประจำเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 6.2% แตะระดับ 430,000 หลัง/ปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% แตะที่ 405,000 หลัง/ปี

-- กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานปรับตัวลดลง 35,000 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเหลือเพียง 466,000 ราย ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 500,000 รายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว

-- ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐขยายตัวดีเกินคาดในเดือนต.ค. หลังผู้บริโภคมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัว

-- นายฮิโรฮิสะ ฟูจิอิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นมองว่า เงินหยวนนั้นอาจจะอ่อนค่าเกินไป เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่ง ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวถือเป็นการแสดงความเห็นที่หนักแน่นที่สุดนับตั้งแต่ที่เขาเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา และยังเป็นท่าทีที่สอดคล้องกับทางสหรัฐและยุโรปที่ต้องการให้เงินหยวนแข็งค่าขึ้น

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐจะประกาศยุทธศาสตร์เรื่องการทำสงครามในอัฟกานิสถานวันที่ 1 ธันวาคมนี้ ในโอกาสกล่าวปราศรัยทั่วประเทศที่กองทัพสหรัฐ นิวยอร์ก

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ขยายตัว 0.8%ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวเกือบต่ำสุดในรอบ 10 ปี และขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.9% เนื่องจากยอดส่งออกหดตัวลง ซึ่งบ่งชี้ว่าฟิลิปปินส์แทบไม่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

-- บุตรชายของผู้ว่าราชการจังหวัดมากินดาเนา ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ได้มอบตัวต่อทางการวันนี้ หลังจากที่เขาและครอบครัวของเขาถูกต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อคดีสังหารหมู่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีพลเรือนเสียชีวิตถึงอย่างน้อย 57 คน

-- บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมเสนอให้มีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงประมาณ 17% ภายในปี 2563 ในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในกรุงโคเปนเฮเกน ของเดนมาร์ก วันที่ 9 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นความพยายามในการยุติภาวะชะงักงันระหว่างประเทศร่ำรวยและยากจน

-- กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ รวม 20 ประเทศ เช่น บราซิล อินเดีย เกาหลีใต้ และเวียดนาม ได้เห็นพ้องในข้อตกลงเบื้องต้นด้านการปรับลดกำแพงภาษีลงอย่างน้อย 20% สำหรับสินค้าหลายรายการ ซึ่งรวมไปถึงสินค้าเกษตร

-- โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มีแผนที่จะลดการจ่ายเงินโบนัสฤดูหนาวสำหรับพนักงานระดับบริหารประมาณ 8,700 คน โดยลดลงเฉลี่ย 20% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทกำลังประสบภาวะขาดทุน

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ได้เชิญนายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ ของออสเตรเลีย เยือนทำเนียบขาวในวันจันทร์หน้า เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ก่อนที่การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะเปิดฉากขึ้นที่กรุงโคเปนเฮเกนระหว่างวันที่ 17-18 ธันวาคมนี้

-- ดร.แอน ชูแชท ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิคุ้มกันและโรคทางเดินหายใจ ในสังกัดศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชึ้ว่า วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง

-- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 3.6%ต่อปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ในรอบ 4 เดือน หลังจากดีมานด์สินค้าอิเล็กทรอนิกเพิ่มขึ้น

-- นายกรัฐมนตรี เหวิน เจียเป่า ของจีน จะเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ในเดือนธันวาคมนี้

-- เงินเยนแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบเงินดอลลาร์ หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าหน่วยงานด้านการเงินของญี่ปุ่นจะปล่อยให้เงินเยนแข็งค่าต่อไปอีก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ