นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายก รัฐมนตรีเป็นประธานว่า ได้อนุมัติร่างสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ ซึ่งจะเป็นการเซ็นสัญญาระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กับบริษัท หงสาเพาเวอร์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนของของ บมจ.บ้านปู(BANPU), บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง(RATCH) และรัฐบาลลาว เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าหงสาลิกไนต์ที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง มีกำลังผลิต 1,653 เมกกะวัตต์ แบ่งเป็น 3 ยูนิต ยูนิตละ 551 เมกกะวัตต์
โดยยูนิตแรกจะจ่ายไฟฟ้าในเดือน มี.ค.2558 ยูนิตที่สองจะจ่ายไฟฟ้าในเดือน ส.ค.2558 และยูนิตที่สามจะจ่ายไฟฟ้าในเดือน ธ.ค.2558 โดยจะขายไฟให้กับฝั่งไทย 1,473 เมกกะวัตต์ ที่เหลือขายให้กับประเทศลาวเป็นสัญญาอายุ 25% ราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดอายุสัญญา 2.275 บาท/หน่วย
ทั้งนี้จะมีการส่งร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุดทำการตรวจสอบอีกครั้ง และหลังจากนั้นก็จะสามารถเซ็นสัญญาได้เลย โดย มีกำหนดว่าโครงการจะต้องจัดหาเงินกู้ให้ได้ภายใน 12 เดือน นับจากวันเซ็นสัญญา
นอกจากนี้ กพช.ยังได้อนุมัติข้อตกลงเบื้องต้นในการรับซื้อไฟฟ้า(Tariff MOU) ในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินมาย-กก ในประเทศพม่า ซึ่งมีบริษัท อิตาเลียนไทยเพาเวอร์ เป็นผู้พัฒนาโครงการ โดยโครงการนี้จะอยู่ในรัฐฉาน ประเทศพม่า บริเวณอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ปากเหมืองลิกไนต์ มีกำลังการผลิตทั้งหมด 405 เมกกะวัตต์ มี 3 ยูนิต ยูนิตละ 135 เมกกะวัตต์ โดยจะขายไฟฟ้าให้ไทย 369 เมกกะวัตต์ โดยยูนิตแรกจะจ่ายไฟฟ้าได้ในเดือน ม.ค.2559 ยูนิตที่สองจะจ่ายไฟฟ้าในเดือน เม.ย.2559 และยูนิตที่สามจะจ่ายไฟฟ้าในเดือน ก.ค.2559
รมว.พลังงาน กล่าวอีกว่า ที่ประชุม กพช.ยังอนุมัติให้มีการพิจารณาจัดหาไฟฟ้ากับให้ประชาชนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวน 130,000 ครัวเรือน เพื่อให้มีไฟฟ้าใช้ได้ทั่วถึง โดยให้การไฟฟ้านครหลวง( กฟน.) ดูแลจัดหาไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ให้จัดหาไฟฟ้าในพื้นที่ต่างจังหวัด