สำนักงานสถิติแห่งชาตินิวซีแลนด์เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.ร่วงลงสู่ระดับ 1.16 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ (830 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 1.67 พันล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงมากที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากยอดนำเข้าสินค้าปรับตัวลดลง ซึ่งช่วยชดเชยการร่วงลงของยอดส่งออกได้
รายงานระบุว่า หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติฯรายงานยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงแล้ว ค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 71.58 เซนต์สหรัฐ/นิวซีแลนด์ จากก่อนที่จะมีการรายงานข้อมูลดังกล่าวที่ระดับ 71.62 เซนต์สหรัฐ/เซนต์นิวซีแลนด์
ยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงของนิวซีแลนด์สอดคล้องกับข้อมูลเศรษฐกิจที่ทางการนิวซีแลนด์เปิดเผยไปก่อนหน้านี้ รวมถึงยอดค้าปลีกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในไตรมาส 3 หลังจากที่ขยายตัวได้ 0.5% ในไตรมาส 2 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวขยายตัวสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.1% และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจนิวซีแลนด์กำลังหลุดพ้นจากภาวะถดถอย
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่าเศรษฐกิจนิวซีแลนด์จะขยายตัวได้เร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการปรับลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้มาก ขณะที่นายอลัน บอลลาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ส่งสัญญาณว่า ธนาคารยังไม่มีแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2553 เพราะต้องการกระตุ้นดีมานด์ในประเทศให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างยั่งยืน