บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และโซนี่ คอร์ป เป็นสองในหลายบริษัทส่งออกของญี่ปุ่นที่อาจมีผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด เนื่องจากเงินเยนแข็งค่ากว่าที่ทางบริษัทคาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาทีวีและรถยนต์ของญี่ปุ่นที่ส่งไปขายยังต่างประเทศปรับตัวลดลง
ก่อนหน้านี้ โตโยต้า, โซนี่, แคนน่อน และชาร์ป คาดการณ์ไว้ว่า ค่าเงินเยนจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 90-95 เยนต่อดอลลาร์ในปีงบประมาณปีนี้ แต่สถานการณ์เงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบันอาจทำให้บริษัทส่งออกของญี่ปุ่นต้องปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการลง ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายต้องการให้กระทรวงการคลังเข้าแทรกแซงเพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน
ค่าเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 84.83 เยนต่อดอลลาร์ในวันนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจที่ตกอยู่ในภาวะเปราะบางอาจทำให้นักลงทุนแห่ซื้อสกุลเงินเยน แต่เงินเยนที่แข็งค่าจะทำให้บริษัทส่งออกของญี่ปุ่นมีผลประกอบการที่ล้าหลังบริษัทคู่แข่งอย่างเกาหลีใต้ รวมถึงบริษัท ซัมซุง อิเล็กทรอนิก และฮุนได มอเตอร์ โดยข้อมูลจากศูนย์วิจัยไดวาระบุว่า บริษัทผู้ผลิตเครื่องไฟฟ้าในญี่ป่นขาดทุนรวมกันราว 3.18 หมื่นล้านเยน หรือ 370 ดอลลาร์ต่อปี อันเนื่องมาจากเงินเยนที่แข็งค่า
ทั้งนี้ ผู้บริหารของแคนน่อนและโซนี่ กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจำเป็นต้องยื่นมือเข้ามาแก้ไขสถานการณ์เงินเยนแข็งค่า ขณะที่ผู้บริหารโตโยต้ากล่าวว่า หากเงินเยนแข็งค่าขึ้นมายืนที่ระดับ 85 เยน/ดอลลาร์ จะส่งผลให้โตโยต้าขาดทุนการดำเนินงานอีก 9 หมื่นล้านเยนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และอาจทำให้โตโยต้าต้องย้านฐานการผลิตบางส่วนออกไปนอกญี่ปุ่น
โซนี่และพานาโซนิค ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก เตรียมปลดพนักงานกว่า 48,000 ตำแหน่งเนื่องจากบริษัทไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งอย่างซัมซุงของเกาหลีใต้ได้ ขณะที่โตโยต้าและฮอนด้า สองผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นกล่าวว่า บริษัทอาจเพิ่มการผลิตรถยนต์ในต่างประเทศเนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าทำให้บริษัทเสียเปรียบคู่แข่งในต่างประเทศ รวมถึงฮุนไดของเกาหลีใต้