นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ความมั่นใจกับผู้บริหารบริษัท Dow Chemical Company ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีศาลปกครองกลางสั่งชะลอ 76 โครงการลงทุนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งบริษัทได้ร่วมทุนกับ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) ลงทุนโครงการผลิตโพรไพลีนออกไซด์ มูลค่า 3,000 ล้านบาท
"ขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อจะแก้ไขปัญหากรณีมาบตาพุดโดยเร็ว เพราะทราบดีว่าภาคเอกชนต่างได้รับผลกระทบ โดยในขณะนี้ได้เห็นชอบหลักการพิจารณาออกกฎหมายชั่วคราวให้สอดคล้องกับมาตรา 67 ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 และได้มีการกำหนดหลักการในเบื้องต้นแล้ว" นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อนายไฮนส์ ฮัลเลอร์(Mr. Heinz Haller) รองประธานด้าน Performance System บริษัท Dow Chemical Company ที่เข้าเยี่ยมคารวะเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ตนเองได้มีโอกาสพบและชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อนาย Pat Dawson ประธานบริษัท Dow Chemical ประจำภูมิภาคแปซิฟิคไปแล้วในโอกาสที่คณะนักธุรกิจสหรัฐฯ ที่เป็นสมาชิก US-APEC Business Council เข้าเยี่ยมคารวะในช่วงระหว่างการประชุมเอเปคที่สิงคโปร์
นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกด้วย โดยเห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญ และมีมุมมองในแง่บวกว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นฟูไปในทิศทางที่สดใส
สำหรับบริษัท Dow Chemical Company ลงทุนโครงการผลิตโพรไพลีนออกไซด์มูลค่า 3,000 ล้านบาท ในนามบริษัท เอ็มทีพี เอชพีพีโอ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ.สยามสไตรีนโมโนเมอร์(SSMC) ที่เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บมจ.ปูนซิเมน์ไทย(SCC) กับ Dow ในสัดส่วนร้อยละ 50 เท่ากัน โดยโครงการดังกล่าวมีกำลังการผลิตโพรไพลีนออกไซด์ 390,000 ตันต่อปี และคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ในครึ่งปีแรกของปี 2554
ทั้งนี้ โพรไพลีนออกไซด์เป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม คือ โพลีออล และโพลิยูรีเทน เพื่อใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการก่อสร้าง เครื่องเรือน เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์กีฬา และอื่นๆ