เอกชนเชื่อฟองสบู่แตกในดูไบไม่กระทบไทย แต่กังวลเวียดนามลดค่าเงินมากกว่า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 27, 2009 16:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัญหาฟองสบู่แตกที่ดูไบส่งผลกระทบต่อไทยน้อยมาก เพราะเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเกี่ยวกับปัญหาทางด้านการเงินเช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาติดตามสถานการณ์อีกระยะ

ด้านนายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในดูไบขณะนี้ ยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยตรง เนื่องจากไทยไม่ได้มีการทำธุรกิจหรือลงทุนในดูไบมากนัก เนื่องจากดูไบเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศที่ใช้สำหรับในการต่อเครื่องบิน การซื้อขายน้ำมัน และด้านธุรกิจบริการเท่านั้น

แต่ภาคเอกชนมองว่าการที่เวียดนามลดค่าเงินดองลงมา 5.2% อาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจไทยมากกว่า เพราะทำให้ความสามารถในการส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการลดน้อยลง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอ อาหารทะเลบรรจุกระป๋อง ข้าว และอื่นๆ เป็นต้น เนื่องจากที่ผ่านมา ราคาสินค้าของเวียดนามมีราคาถูกกว่าไทยอยู่แล้ว 3-4% และหากลดค่าเงินดองครั้งนี้อีก จะทำให้สินค้ามีมูลค่าถูกกว่าถึง 10% อาจทำให้ลูกค้าหันไปสั่งซื้อจากเวียดนามแทน

ทั้งนี้ ภาคเอกชนคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะมีความกังวลมาก แต่ยืนยันว่ากรณีของเวียดนาม หากยังอยู่ในระดับนี้ภาคเอกชนยังสามารถรับได้ แต่หากมีการลดค่าเงินดองมากกว่านี้รัฐบาล คงจะต้องเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ

นายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ รองประธานคณะกรรมการกฎระเบียบและการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เชื่อว่า ปัญหาการเงินของดูไบที่เกิดขึ้นจะเหมือนกับของสหรัฐ แต่อาจไม่รุนแรงเท่า เพราะเพิ่งเริ่มเกิดขึ้นและอาจจะส่งผลกระทบบ้างเล็กน้อยต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ ส่วนผลกระทบต่อการส่งออกของไทยหรือไม่ เชื่อว่าจะไม่รุนแรง

ส่วนปัญหาเรื่องการลดค่าเงินดองของเวียดนามเกิดจากการโจมตีค่าเงิน เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวยังไม่จบโดยเร็ว ซึ่งการลดค่าเงินดังกล่าว จะส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าของเวียดนามทำให้ราคาถูกลง ประกอบกับในวันที่ 1 ม.ค.53 ที่จะมีการเปิดเสรีการค้า ทำให้สินค้าของเวียดนามและจีนอาจมาแย่งลูกค้าของไทยได้ ดังนั้นจึงเห็นว่ารัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรต้องดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งค่าไปกว่าระดับปัจจุบัน เพราะอาจทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถแข่งขันได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ