เจ้าหน้าที่ด้านการเงินและการคลังจากยุโรปประสบความล้มเหลวในการโน้มน้าวให้จีนปล่อยเงินหยวนให้แข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์ ซึ่งทำให้ภาคการส่งออกของยุโรปมีความสามารถในการแข่งขันลดลง
โดยเงินหยวนของจีนตรึงอยู่ที่ระดับเดิมมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าราว 20% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์มาตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ ส่งผลให้ภาคการส่งออกของยุโรปมีความสามารถในการแข่งขันน้อยลง และส่งผลเสียต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในที่สุด
ฌอง-คล้อด จังเกอร์ ประธานกลุ่มรัฐมนตรีคลังเขตยูโรโซน กล่าวในการแถลงข่าวที่เมืองหนานจิง ประเทศจีนว่า เจ้าหน้าที่จากจีนกล่าวว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้สาธารณชนเห็นถึงประโยชน์ของการปล่อยให้ค่าเงินหยวนแข็งค่าในทันที
ด้านนักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าจีนจะปรับนโยบายการเงินตามเงื่อนไขและเวลาที่ทางการจีนคิดว่าเหมาะสม ซึ่งยังไม่ใช่ในตอนนี้ สอดคล้องกับความคิดของจังเกอร์ และ ฌอง-คล้อด ทริเชต์ ผู้ว่าการธนาคารกลางยุโรป ซึ่งกล่าวว่าไม่มีแนวโน้มว่าจีนจะปรับนโยบายการเงินในทันที