ผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ชี้เศรษฐกิจอินเดียไตรมาส 3 มีแววขยายตัวสูงสุดรอบหนึ่งปีที่ระดับ 6.3% จากปีที่แล้วและเพิ่มขึ้นจากระดับ 6.1% ในไตรมาสก่อนหน้านี้ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ธนาคารกลางอินเดียตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 3.25% นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รวมถึงการที่รัฐบาลใช้มาตรการลดหย่อนภาษีที่มีสัดส่วนราว 12% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ โดยขณะนี้ทางการอินเดียกำลังประเมินสถานการณ์ระหว่างภัยคุกคามด้านเงินเฟ้อ กับความเสี่ยงในกรณีที่ธนาคารจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วเกินไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่อินเดียต้องใช้ความรอบคอบและใช้นโยบายเชิงยุทธศาสตร์ในการถอนมาตรการกระตุ้นภาคการเงินเพื่อหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่อไป
หนึ่งในนักวิเคราะห์ที่ทำการสำรวจความเห็นในครั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวได้อย่างดีเพราะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะยุติการใช้นโยบายการคลังและการเงินแบบผ่อนปรน ขณะที่รัฐบาลอินเดียเกรงว่าประเทศจะเผชิญกับภัยคุกคามด้านเงินเฟ้อในยามที่เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ด้านธนาคารกลางอินเดีย คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 6.5% ภายในวันที่ 31 มี.ค.ปีหน้า หลังจากที่เคลื่อนไหวในระดับ 1.34% ในเดือนต.ค. และที่ 0.5% ในเดือนก.ย. ขณะที่ในระหว่างปี 2551 อัตราเงินเฟ้อของอินเดียพุ่งสูงสุดเกือบ 13% ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ทำให้องค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) มองว่าธนาคารกลางอินเดียจำเป็นต้องใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินเร็วขึ้นเพื่อควบคุมการดีดตัวของเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ความเห็นดังกล่าวยังสอดคล้องกับบรรดานักสังเกตุการณ์ด้านเศรษฐกิจอินเดียที่คาดว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อกำลังก่อตัวขึ้นและเชื่อว่า ธนาคารกลางจะเริ่มขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมกราคมปีหน้า
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินเดียจะประกาศตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในเวลา 11:00 น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงนิวเดลี