นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้านบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ประเมินในเบื้องต้นว่าผลกระทบจากปัญหาดูไบเวิลด์ในภาพรวมจะไม่กระทบถึงเศรษฐกิจไทย เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังไหลเข้ามากกว่าไหลออก โดยมีธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในดูไบบ้าง เช่น ธุรกิจธนาคารและประกัน ธปท.คาดว่าหากมีความเสียหายเกิดขึ้นก็ไม่น่าจะเกิน 6 ล้านเหรียญสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบทางอ้อมอาจจะมีบ้าง ในแง่ของค่า risk premium อาจจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจไทย และอาจจะกระทบความเชื่อมั่นของตลาดโลก
นางอัจนา กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับรัฐดูไบเป็นเรื่องที่ตลาดน่าจะแยกแยะได้ เพราะที่ผ่านมาก็มีการพูดถึงการคาดการณ์วิกฤติในดูไบอยู่แล้ว เพราะตลาดมองว่าเศรษฐกิจดูไบอาศัยการเติบโตจากแหล่งเงินกู้จากนอกประเทศเป็นหลัก เมื่อมีปัญหาก็ตูมเดียว แต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกคงมีไม่มาก
ส่วนการลดค่าเงินดองของเวียดนาม นางอัจนา มองว่า ไม่น่าจะมีผลกระทบกับไทยมากนัก เพราะสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ทั่วโลกถูกกำหนดโดยราคาตลาดโลกที่อ้างอิงกับค่าเงินดอลลาร์ ส่วนภาคอุตสาหกรรมนั้น เวียดนามไม่ใช่ตลาดใหญ่ของไทย เพราะไทยส่งสินค้าไปขายน้อยมาก ขณะที่อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานสูงนั้นไทยสู้ไม่ได้อยู่แล้วเพราะค่าแรงของเวียดนามต่ำมาก
"อย่าไปตกใจให้มาก เพราะผลกระทบมีไม่มาก ประกอบกับค่าเงินดองไม่ใช่สกุลหลัก ที่ผ่านมาสกุลอื่นในภูมิภาคแข็งค่า แต่เงินดองอ่อน เพราะขาดดุลบัญชีเดินสะพัด"นางอัจนา กล่าว