สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ เร่งพาณิชย์เสนอนโยบายนำเข้ากากถั่วเหลืองปี 53

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 30, 2009 16:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่และเกษตรกร วอนกระทรวงพาณิชย์เร่งนำเรื่องนโยบายนำเข้ากากถั่วเหลืองปี 53 ที่ยังค้างอยู่เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีโดยเร่งด่วนต่อไป เนื่องจากหากการผลิตเนื้อสัตว์ต้องสะดุด เพราะขาดแคลนวัตถุดิบอาหารสัตว์ หรือต้นทุนอาหารสัตว์สูงเกินไป เพราะการจัดการที่ไม่ดี จะมีผลกระทบทำให้การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติมีปัญหาต่อเนื่องเป็นลูกโซ่

นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ กล่าวว่า หากไม่สามารถประกาศนโยบายนำเข้ากากถั่วเหลืองปี 53 ให้มีผลบังคับใช้ได้ทันในวันที่ 1 ม.ค.53 จะทำให้ค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการสูงขึ้น เพราะผู้นำเข้ากากถั่วต้องวางเงินสดเป็นค่าภาษีนำเข้าสูงถึง 10% และใช้เวลานานกว่า 6-10 เดือนจึงจะได้คืน

อีกทั้งยังมีค่าเช่าเรือสินค้าเกิดขึ้นวันละ 3 ล้านบาท/1 ลำ เพราะติดปัญหาการทำใบอนุญาต ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนี้เป็นต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นโดยไม่จำเป็น และเมื่อต้นทุนการผลิตสูง จะทำให้การส่งออกลดลงเพราะแข่งขันกับคู่แข่งในต่างประเทศไม่ได้ รวมถึง ราคาต้นทุนเนื้อสัตว์ ภายในประเทศจะสูงขึ้นด้วย และจะส่งผลถึงผู้บริโภคปลายทางด้วย

ใน 1 ปีที่ผ่านมาราคาอาหารสัตว์ได้ลดลงโดยเฉลี่ย 5-8% ซึ่งเป็นไปตามเป้าประสงค์ของการลดภาษี จาก 4% เหลือ 2% แล้ว ดังนั้น ข้ออ้างเรื่องการศึกษาผลกระทบต่อราคาอาหารสัตว์ควรจะตกไป และกระทรวงพาณิชย์น่าจะหันมารีบพิจารณาผลักดันให้เรื่องดังกล่าวผ่าน มติ ครม.โดยเร็ว จะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายมากกว่า เพราะกากถั่วเหลืองเป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับการเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นไก่ไข่ ไก่เนื้อ หรือสุกร ซึ่งนอกจากจะใช้บริโภคในประเทศแล้ว เนื้อสัตว์บางประเภทยังมีโอกาสส่งออกไปต่างประเทศ และทำรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศไทย เช่น กรณีไก่เนื้อที่สามารถทำรายได้เข้าประเทศถึงกว่า 5 หมื่นล้านบาทในปีที่ผ่านมา



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ