นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม(สภาพัฒน์) กล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแล้ว ซึ่งช่วยเศรษฐกิจของไทยพลอยได้รับอานิสงส์ฟื้นตัวตามไปด้วย โดยจะเห็นได้จากตัวเลขทางเศรษฐกิจเปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาสขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ภาพรวมทั้งปีจะยังขยายตัวติดลบ
ส่วนในปี 53 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวเป็นบวกราว 3-4% ภายใต้สมมุติฐานที่รัฐบาลจะเบิกจ่ายงบลงทุนผ่านแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งปี 2555 และการลงทุนของรัฐวิสาหกิจให้ได้ตามแผนงานที่วางไว้อย่างน้อย 6 แสนล้านบาท
"สิ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยอยู่รอดหรือไม่อยู่ที่การใช้งบไทยเข้มแข็ง เพราะเศรษฐกิจจะโตได้ต้องมาจากทั้งภาคการลงทุนและการส่งออกควบคู่กันไป" นายอำพน กล่าวในการสัมมนาเรื่อง"เศรษฐกิจโลกฟื้นยั่งยืนหรือชั่วคราว"
ด้านนายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกลับมาฟื้นตัวอย่างแน่นอน โดยจะเห็นได้จากยอดการสั่งออกสินค้าของไทยปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเชื่อว่าการส่งออกในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นมาก และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยไตรมาสสุดท้ายกลับมาขยายตัวเป็นบวก และเชื่อว่าจะขยายตัวต่อเนื่องไปถึงปี 53
สำหรับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายในช่วงเวลา 2-3 ปี และผลพวงจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวทำให้การบริโภคหดตัวลง แต่ภาคเอกชนต้องเตรียมพร้อมเพราะอีก 5 ปีข้างหน้าการก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะมีตลาดที่กว้างขวางขึ้นอย่างมาก