เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้เมื่อเทียบกับเงินยูโร ขณะที่นักลงทุนเริ่มต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น เพราะเริ่มคลายความวิตกกังวลต่อปัญหาหนี้สินในดูไบ
นอกจากนี้ เศรษฐกิจโลกที่เริ่มส่งสัญญานการฟื้นตัวดีขึ้นยังช่วยหนุนให้สกุลเงินยูโรแข็งค่า ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขเศรษฐกิจจากจีนและเยอรมนีจะออกมาสดใส ทั้งรายงานภาคการผลิตจากจีนเดือนพ.ย.ที่คาดว่าจะขยายตัวเร็วสุดในรอบ 19 เดือน รวมถึงยอดค้าปลีกของเยอรมนีเดือนต.ค.ที่คาดว่าจะดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากที่ร่วงลง 0.2% ในเดือนก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.5039 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.5005 ยูโร/ดอลลาร์ ส่วนเงินเยนเทรดที่ระดับ 86.27 ดอลลาร์/เยน จากระดับ 86.41 ดอลลาร์/เยน
ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายที่ระดับ 91.75 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของเมื่อวานนี้ที่ 91.60 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 0.25% ในที่ประชุมวันนี้
นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว และวิกฤตดูไบ เวิลด์ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดสินเชื่อมากนัก ซึ่งมุมมองเช่นนี้ทำให้นักลงทุนต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น