สหรัฐเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างขยับขึ้นเล็กน้อยในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการปรับตัวสูงขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังจากที่ยอดสร้างที่อยู่อาศัยมีมากกว่ายอดสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างขยับขึ้น 0.04% ในเดือนตุลาคม หรือคิดเป็นมูลค่า 401 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างรายปีเพิ่มขึ้นเป็น 9.108 แสนล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างหดตัว 5 เดือนติดต่อกัน โดยเฉพาะในเดือนกันยายนที่ร่วงลงถึง 1.6% ซึ่งถือว่าหนักสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา
หลายฝ่ายหวังว่า สถิติที่ปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในครั้งนี้จะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาคการก่อสร้างเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีต่อไป
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนตุลาคมปรับตัวสูงขึ้นเพราะได้รับแรงหนุนจากการก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น 4.4% ซึ่งถือว่าขยายตัวมากสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2541 ส่งผลให้ตัวเลขการก่อสร้างที่อยู่อาศัยรายปีอยู่ที่ 2.503 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนตุลาคม แต่ก็ยังน้อยกว่าระดับของปีที่แล้วถึง 23.6%
ด้านการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย (อาทิ อาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า) ลดลง 2.5% ในเดือนตุลาคม ซึ่งหดตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันแล้ว ส่งผลให้การก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยรายปีลดลงเหลือ 3.386 แสน้ลานดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับของปีที่แล้วอยู่ 20.6%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมขยายตัว 2.8% ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 3.5% แต่ก็ขยายตัวเป็นครั้งแรกหลังจากที่หดตัว 4 ไตรมาสติดต่อกัน