นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจในวันนี้ว่า สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงพาณิชย์ได้รายงานถึงผลกระทบจากการลดค่าเงินดอง ของเวียดนาม ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานเห็นสอดคล้องกันว่า การลดค่าเงินเวียดนาม ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย โดยพบว่าจะทำให้การส่งออกสินค้าของเวียดนามได้เปรียบสินค้าไทย เช่น ข้าว เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า ชิ้นส่วน อาหารทะเล อาหารกระป๋อง อาหารแปรรูป
นอกจากนี้ การลดค่าเงินของเวียดนามทำให้ความต้องการนำเข้าสินค้าของไทยจากเวียดนามลดลงด้วย และยังทำให้นักธุรกิจไทยที่ไปลงทุนในเวียดนามต้องมีผลขาดทุนจาดอัตราแลกเปลี่ยน รับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น และมีความเสียหายจากการซื้อขายทรัพย์สินผ่านตลาดเงินตลาดทุน
ขณะเดียวกันมีการประเมินว่าการลดค่าเงินของเวียดนามครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่มีแนวโน้มที่เวียดนามจะอาจมีการลดอีกในอนาคต เนื่องจากมีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงต้องวางแนวทางเพื่อเตือนและเฝ้าระวังนักธุรกิจที่เข้าไปลงทุนในเวียดนาม
ขณะที่ปัญหาดูไบ ไม่น่ามีผลกระทบต่อไทย เนื่องจากสถาบันการเงินไทยมีการปล่อยสินเชื่อในดูไบน้อยมาก ขณะที่สินเชื่อในดูไบมาจากยุโรปถึง 93.3% ขณะที่มองว่ากลุ่มสหรัฐอาหรับเอมิเรตเอง ยังมีความมั่นคงทางการเงินสูง เชื่อว่า น่าจะเข้ามาช่วยเหลือสภาพคล่องของดูไบ ดังนั้นจึงมองว่า วิกฤตดูไบไม่น่าจะมีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจไทยรวมถึง สถาบันการเงินไทย แต่อาจจะมีผลกระทบทางอ้อมต่อตลาดหุ้นบ้างเล็กน้อย