World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 2 ธันวาคม 2552

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 2, 2009 16:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดขายยานยนต์ในสหรัฐเดือนพ.ย.พุ่งสูงสุดในปีนี้ที่ระดับ 10.93 ล้านคันสูงกว่าปีก่อนหน้านี้ที่ 10.41 ล้านคันนำโดยยอดขายรถของโตโยต้าที่ทะยานขึ้น 2.6% ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งสัญญาณว่าผู้ซื้อเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดยานยนต์ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพ

-- สหรัฐเผยตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างขยับขึ้นเล็กน้อยในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการปรับตัวสูงขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หลังจากที่ยอดสร้างที่อยู่อาศัยมีมากกว่ายอดสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย

-- ทุนสำรองเงินต่างประเทศของเกาหลีใต้พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย. เนื่องจากมูลค่าสินทรัพย์ในรูปสกุลอื่นที่สามารถแปลงเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับเม็ดเงินกำไรจากการลงทุนขยายตัวดีขึ้น

-- มิยาโกะ สึดะ สมาชิกของคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เตือนว่าความผันผวนของค่าเงินเยนและตลาดการเงินอาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยในระยะสั้นนั้น อาจจะมีความเสี่ยงมากขึ้นจากสถานการณ์ในตลาดเงินทั่วโลกและความผันผวนในตลาดปริวรรตเงินตราที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และทำให้ความเชื่อมั่นในภาคครัวเรือนและบริษัทย่ำแย่ลง

-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ประกาศยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงด้วยการส่งทหารอเมริกันไปปฏิบัติภารกิจในอัฟกานิสถานเพิ่มอีก 30,000 นาย ก่อนที่จะถอนทหารภายในเดือนกรกฎาคม 2554 แจงเพื่อปกป้องผลประโยชน์สำคัญของชาติและเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ หลังจากที่ดำเนินการกวาดล้างกลุ่มตอลีบานมาเป็นเวลา 8 ปี

-- นายยูคิโอะ ฮาโตยามะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมร่วมกันในช่วงเย็นวันนี้ โดยหัวหน้าเลขาธิการครม.ระบุว่า รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่นจำเป็นต้องผนึกความร่วมมือเพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด และเงินเยนที่พุ่งสูงขึ้น ด้วยการแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด นับเป็นเรื่องสำคัญที่บีโอเจและรัฐบาลจะต้องมีการรับรู้ในเรื่องเดียวกันเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ

-- จีนได้ประกาศเปิดตัวกฎระเบียบในการสร้างมาตรฐานและส่งเสริมให้มีการตั้งบริษัทร่วมทุนของนักลงทุนต่างชาติในประเทศจีน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนมี.ค.ปีหน้า โดยรัฐบาลเตรียมผลักดันให้นักลงทุนต่างชาติที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและประสบการณ์ในการบริหารเข้ามาตั้งบริษัทร่วมทุนในจีน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาในธุรกิจต่างๆ อาทิ ธุรกิจบริการ

-- วุฒิสภาออสเตรเลียได้ลงคะแนนเสียงคว่ำกฎหมายว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศของรัฐบาล ส่งผลให้นายเควิน รัดด์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียต้องเดินทางไปร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก แบบมือเปล่า โดยสมาขิกวุฒิสภาได้ลงคะแนนเสียงค้านกฎหมายดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 41 ต่อ 33 เสียง

-- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ 30 บริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่ทั่วโลกจะเดินทางเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7 - 18 ธ.ค.นี้ เพื่อรับฟังคำชี้แจงแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ซึ่งซีอีโอที่จะร่วมการประชุมครั้งนี้รวมถึงนายมูห์ตาห์ เคนท์ ซีอีโอบริษัท โคคา-โคลา, นายปีเตอร์ โวเซอร์ ซีอีโอรอยัล ดัทช์ เชลล์, นายเจมส์ โรเจอร์ส ซีอีโอดุ๊ค เอนเนอร์จี และนายหลี่ เสี้ยวหลิน ซีอีโอไชน่า เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล

-- เกาหลีใต้ตัดสินใจศึกษาความเป็นไปได้ในการศึกษาความเป็นไปได้ในทางเศรษฐกิจและเทคนิคเพื่อสร้างอุโมงค์ใต้ทะเลเชื่อมกับประเทศญี่ปุ่นและจีน โดยจะเชื่อมโยงพื้นที่ในภาคใต้ของเกาหลีใต้กับเกาะคิวชูของญี่ปุ่น และบริเวณตะวันตกของเกาหลีเหนือกับมณฑลชานตงของจีน

-- นายสตีเฟน ฮาร์เปอร์ นายกรัฐมนตรีแคนาดาเดินสายเยือนจีนและฮ่องกงในสัปดาห์นี้ โดยนายกฯแคนาดาได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่งแล้วในวันนี้ ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ แคนาดามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้บริษัทในจีน อาทิ ไชน่า ปิโตรเลียม แอนด์ เคมิคอล คอร์ป เข้ามาลงทุนในธุรกิจเหมืองและพลังงานของประเทศ เนื่องจากแคนาดากำลังหาทางลดการพึ่งพาสหรัฐ หลังจากที่ดีมานด์สำหรับไม้ รถยนต์ และสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐหดตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ