FED ออกรายงานชี้เศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่เริ่มฟื้นตัว ผู้บริโภค-ภาคเอกชนใช้จ่ายมากขึ้น

ข่าวต่างประเทศ Thursday December 3, 2009 09:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขต ครั้งล่าสุดว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคดีดตัวขึ้นด้วยแม้ตัวเลขจ้างงานและภาคอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐยังอ่อนแออยู่ก็ตาม นอกจากนั้น รายงานของเฟดระบุว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในสหรัฐฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน

รายงานระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของ 8 ใน 12 เขตของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้น ได้แก่ บอสตัน นิวยอร์ก ชิคาโก เซนต์หลุยส์ มินนีอาโพลิส แคนซัสซิตี้ ดัลลัส และซานฟรานซิสโก ส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอีก 4 เขต คือ ฟิลาเดลเฟีย คลีฟแลนด์ ริชมอนด์ และแอตแลนต้า ค่อนข้างทรงตัว ซึ่งรายงานดังกล่าวบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง

"ผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 สาขายังพบว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นเฟดจึงเห็นว่าการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนั้น จะช่วยให้ผู้บริโภคและภาคเอกชนเพิ่มการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวขึ้นได้อีกทางหนึ่ง" รายงานของเฟดกล่าว

อย่างไรก็ตาม เฟดยอมรับว่าอาจเกิดผลกระทบด้านลบที่เกิดจากการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำและจากการที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปอีกระยะหนึ่งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมการมองว่าสภาวะดังกล่าวอาจทำให้ตลาดการเงินตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกกดดันจากกระแสเก็งกำไร และจะทำให้เศรษฐกิจทั้งระบบเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในที่สุด

ส่วนในด้านการจ้างงานนั้น เฟดเชื่อว่าตลาดแรงงานของสหรัฐต้องใช้เวลาอีกราว 5 -6 ปีจึงกลับสู่ภาวะปกติ โดยเฟดได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2553 และ 2554 โดยคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ช่วง 9.3 - 9.7% ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 9.5 - 9.8%

นอกจากนี้ รายงานของเฟดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นในบางพื้นที่ โดยในเขตบอสตันมีผลผลิตอุตสาหกรรมดีขึ้น ขณะที่ดัลลัสมีรายงานว่าผลผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูง กระดาษ และเคมีภัณฑ์ ปรับตัวสูงขึ้น และอุตสาหกรรมอาหารดีดตัวขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มผู้ผลิตส่วนใหญ่ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

เบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดให้คำมั่นสัญญาว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0 - 0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้น พร้อมกับกล่าวว่าแม้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้น แต่ตัวเลขเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เฟดตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ เบอร์นันเก้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงขยายตัวในปีหน้า แต่เตือนว่าจะมีปัจจัยลบหลายด้านเข้ามาขัดขวางกระบวนการฟื้นตัว รวมถึงอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจะส่งผลให้ภาคครัวเรือนจะลดการใช้จ่าย และยังทำให้ธุรกิจขาดเล็กเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากขึ้น

นักลงทุนจับตาดูเบอร์นันเก้ที่เตรียมตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย เพื่อดูว่าคณะกรรมาธิการฯจะมีมติรับรองเบอร์นันเก้ให้เป็นประธานเฟดสมัยที่สองหรือไม่ โดยเบอร์นันเก้จะครบวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในวันที่ 31 ม.ค.2553

ทั้งนี้ Beige Book เป็นรายงานที่จัดเตรียมไว้เพื่อช่วยประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ โดยเฟดจะเปิดเผยรายงาน Beige Book ปีละ 8 ครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ