นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้ใช้โอกาสที่เดินทางไปร่วมประชุม รมต.องค์การการค้าโลก(WTO) เจรจาขายข้าวให้กับประเทศอินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE) แอฟริกาใต้ และไนจีเรีย โดยจะขอให้เพิ่มปริมาณการนำเข้าในอนาคต และบางประเทศมีศักยภาพพอก็ขอความร่วมมือเป็นประตูการค้าให้ไทยส่งสินค้าไปขายในภูมิภาค เช่น ยูเออี และแอฟริกาใต้
นอกจากนี้ ตนเองยังได้หารือถึงแนวทางเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยขอให้ประเทศเหล่านี้สนับสนุนการเข้าไปประกอบธุรกิจของคนไทย เช่น ในไนจีเรียมีนักลงทุนไทยสนใจเข้าไปลงทุนสาขาเกษตรแปรรูป ก๊าซธรรมชาติ และอาหารสัตว์ ส่วนในยูเออีมีคนไทยสนใจธุรกิจสปา ร้านอาหาร ก่อสร้าง เป็นต้น
ส่วนการเจรจาความตกลงทางการค้านั้นได้ขอให้อินเดียเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี(เอฟทีเอ) กับไทยในส่วนที่ค้างอยู่ ส่วนยูเออีคาดว่าจะมีการเจรจาเขตการค้าเสรีอาเซียน-กลุ่มประเทศอ่าวอาหรับในเร็วๆ นี้ ซึ่งยูเออีรับปากที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
สำหรับผลการประชุมรัฐมนตรีดับบลิวทีโอนั้น ไทยได้เรียกร้องให้ปิดการเจรจารอบโดฮาโดยเร็ว โดยขอให้ทุกประเทศแสดงความพร้อมที่จะเจรจาอย่างจริงจังและยืดหยุ่นให้มาก เพราะเห็นว่าการเจรจาใกล้จะเสร็จแล้ว ไม่ควรเสียเวลามากกว่านี้ เพราะยิ่งเสร็จเร็วก็จะช่วยทำให้เศรษฐกิจและการค้าโลกฟื้นตัวเร็ว
อย่างไรก็ตาม อาเซียนตกลงที่จะให้มีแนวทางในการผลักดันการเจรจารอบโดฮาให้เร็วขึ้น และต้องการให้อาเซียนมีบทบาทสำคัญในการเจรจาบางเรื่องที่ยังติดอยู่ เช่น การลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรม การบริการ เป็นต้น โดยการลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรม ไทยได้พยายามผลักดันให้มีการลดภาษีอัญมณีและเครื่องประดับเป็นรายสาขา หากอาเซียนสนับสนุนก็จะช่วยให้เรื่องนี้มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น