ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลังแบงค์ชาติยุโรปเล็งถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Friday December 4, 2009 07:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศคงอัตราดอกเบี้ย 1% และประกาศว่าจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ข่าวที่ว่าแบงค์ ออฟ อเมริกา เตรียมชำระคืนหนี้สินให้กับรัฐบาลส่งผลให้ดอลลาร์ถูกกดดันมากขึ้นด้วย

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.19% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.5073 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.5044 ยูโร/ดอลลาร์ และรูดลง 0.18% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9998 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0016 ฟรังค์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.43% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6562 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.6634 ปอนด์/ดอลลาร์ แต่ฟื้นตัวขึ้น 0.83% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 88.180 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 87.450 ฟรังค์/ดอลลร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดีดขึ้น 0.01% แตะที่ 0.9250 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.9249 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดีดขึ้น 0.06% แตะที่ 0.7224 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7220 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็น ประวัติการณ์ที่ 1% เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันตามความคาดหมายของนักเศรษฐศาสตร์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนที่ 0.25% และคงอัตราเงินกู้ที่ 1.75% นอกจากนี้ อีซีบีประกาศว่าจะเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า แบงค์ ออฟ อเมริกา ผู้ปล่อยกู้รายใหญ่สุดในสหรัฐ เตรียมจ่ายเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์คืนรัฐบาล ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารหลุดพ้นจากกฎการจ่ายค่าตอบแทนผู้บริหารที่เข้มงวดของรัฐบาล ทั้งนี้ การคืนเงินให้กับรัฐบาลจะช่วยให้ทางธนาคารสามารถหาผู้บริหารคนใหม่ได้ง่ายขึ้น หลังจากที่ซีอีโอ เคนเนธ ดี. ลูวิส ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.หดตัวลงสู่ระดับ 48.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.6 จุด โดยดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคบริการ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จะอยู่ที่ระดับ 51.5 จุด

นักลงทุนจับตาดูรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนพ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลง 120,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงน้อยที่สุดในรอบ 2 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานจะยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 10.2% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ