สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เผยดัชนีภาคอุตสาหกรรมบริการเดือนพ.ย.ร่วงสู่ระดับ 48.7 จุด จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.6 จุด สวนทางกับที่วิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะเพิ่มขึ้นแตะที่ 51.5 จุด ขณะที่ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ทรุดตัวลง 0.3% เมื่อเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมา
ดัชนีภาคอุตสาหกรรมบริการ และรายงานยอดค้าปลีกดิ่งลงแรงเกินคาดในเดือนพ.ย. เนื่องจากผู้บริโภคควบคุมการใช้จ่ายและอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่ตัวเลขจ้างงานดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นปัจจัยขัดขวางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการนั้นมีส่วนขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 80% ทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพ ค้าปลีก การเงิน และการคมนาคมขนส่ง
ในส่วนของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐเผชิญแรงกดดันเมื่อเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากบรรยากาศการเข้าสู่เทศกาลจับจ่ายซื้อสินค้าไม่สามารถชดเชยการใช้จ่ายที่ซบเซาในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ได้
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงเกินคาดเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งหลายฝ่ายหวังว่าจะเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยรวมยังคงสูงกว่าระดับที่นักเศรษฐศาสตร์คิดว่าสอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 10.2% และคาดว่าจะไต่ระดับขึ้นอีกจนเข้าปีหน้า
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย เหลือ 457,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 6 กันยายน 2551 สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น