นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับ-ส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง(แอร์พอร์ตเรลลิงค์) จะสามารถเปิดให้บริการแก่ประชาชนได้ก่อนเดือน เม.ย.53 อย่างแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเรียบร้อยของระบบวิศวกรรมด้านต่างๆ
"ทางท่านรัฐมนตรี(นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม)ยืนยันว่าอย่างนั้น" นายอภิสิทธิ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงกำหนดการเปิดให้บริการแก่ประชาชนของโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์หลังร่วมทดลองใช้บริการ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูง เน้นสายตะวันออกเป็นหลัก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง
เมื่อวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.ศก.) เห็นชอบในหลักการแผนพัฒนาการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) โดยอนุมัติกรอบงบประมาณ 1 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบรางรถไฟทั่วประเทศ การจัดซื้อหัวรถจักร รวมทั้งพัฒนาบุคลากร
ในส่วนของการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร, กรุงเทพฯ-หนองคาย 615 กิโลเมตร, กรุงเทพฯ-จันทบุรี 330 กิโลเมตร และกรุงเทพฯ-ปาดังเปซาร์ 985 กิโลเมตร เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีกำชับให้เร่งศึกษาเส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางกรุงเทพฯ-จันทบุรี ให้เสร็จภายใน 45 วัน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์เปิดให้บริการแล้วจะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นอย่างมาก เพราะจากสถานีมักกะสันถึงสนามบินสุวรรณภูมิใช้เวลาประมาณ 12 นาที และคาดว่าจะเก็บค่าโดยสาร 150 บาท/เที่ยว/คน
ส่วนกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย(สร.รฟท.) คัดค้านการตั้งบริษัทลูกที่จะเข้ามาบริหารแอร์พอร์ตลิ้งเนื่องจากเกรงว่าจะนำไปสู่การแปรรูปรัฐวิสาหกิจนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกฝ่ายเห็นตรงกันที่จะให้เปิดบริการโดยเร็วที่สุด และรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอยู่ตลอดเวลา