ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร เหตุนักลงทุนวิตกแนวโน้มเศรษฐกิจ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 8, 2009 07:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์หลังจากตลาดหุ้นร่วงลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตเศรษฐกิจในสหรัฐยังไม่ผ่านพ้นไป แม้อัตราว่างงานในสหรัฐปรับตัวลดลงแล้วก็ตาม

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.26% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4811 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.4850 ยูโร/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.06% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6438 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6448 ปอนด์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.39% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0204 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.0164 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ร่วงลง 1% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 89.530 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 90.430 เยน/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.44% แตะที่ 0.9116 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของศุกร์ที่ 0.9156 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.61% แตะที่ 0.7122 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7166 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักวิเคราะห์จากมิซูโฮ คอร์ปอเรท แบงค์ กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดหุ้นที่ร่วงลง จึงเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์เพราะเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย โดยกระแสความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นแม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) ของสหรัฐเดือนพ.ย.ลดลง 11,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 120,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนพ.ย.ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 10.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีครึ่ง

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ย.ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ จะดีดตัวขึ้น 0.7% ซึ่งจะทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากผู้บริโภคสหรัฐมีแนวโน้มใช้จ่ายมากขึ้นจนถึงปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ