นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เห็นชอบโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ไทย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยอนุมัติเงินงบประมาณจากงบกลางรายการสำรองรายจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน ประจำปีงบประมาณ 53 และงบประมาณรายจ่ายประจำปี 54 รวมวงเงิน 230 ล้านบาทให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อชดเชยค่าส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยให้กับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) และชดเชยค่าส่วนต่างของค่าธรรมเนียมเงินกู้ให้กับ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ธพว.ผ่อนปรนการค้ำประกันการปล่อยสินเชื่อตามโครงการช่วยเหลือด้านการเงินนและให้ธพว.ช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยให้แยกบันชีทุกบัญชีตามนโยบายของรัฐ(พีเอสเอ)ออกจากการดำเนินงานปกติของธพว.และขออนุมัติชดเชยความเสียหายจากการดำเนินโครงการ รวมทั้งเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารโครงการโดยมี รมช.พาณิชย์ เป็นประธาน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับธพว. บสย.และผู้แทนสมาคมด้านธุรกิจโลจิสติกส์ จัดทำโครงการช่วยเหลือด้านการเงินแก่ผู้ประกอบธุรกิจโลจิสติกส์ขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) 7 แนวทาง ระยะเวลา 5 ปี คาดว่าจะมีวงเงินให้สินเชื่อรวม 3,000 ล้านบาท มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 600 ราย ได้แก่ รัฐบาลรับภาระค่าดอกเบี้ยให้ 3% เป็นเวลา 2 ปี ส่วนปีที่ 3 คิดอัตราตามที่ธพว.กำหนด โดยกำหนดวงเงินให้สินเชื่อรายละไม่เกิน 5 ล้านบาท และผ่อนปรนการค้ำประกัน เป็นต้น