World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 9, 2009 09:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) หลังจากบริษัท 3M และแมคโดนัลด์ รายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ส่งผลให้นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์และพันธบัตร นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากมูดีส์ระบุว่าหนี้สาธารณะของสหรัฐและอังกฤษมีแนวโน้มพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 104.14 จุด หรือ 1.00% ปิดที่ 10,285.97 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 11.31 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 1,091.94 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 16.62 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 2,172.99 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 73 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) โดยสัญญาปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เพราะถูกกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น และข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าดีมานด์พลังงานในหลายประเทศยังไม่มีแนวโน้มฟื้นตัว รวมถึงภาคอุตสาหกรรมที่ยังคงอ่อนแอในเยอรมีและอังกฤษ

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.31 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 72.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 72.51-74.39 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้นักลงทุนเทขายทำกำไร

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดที่ 1,143.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 20.60 ดอลลาร์

-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ระบุว่าสหรัฐและอังกฤษมีหนี้สาธารณะที่สูงมาก อีกทั้งระบุว่าอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐและอังกฤษอยู่ในระดับที่อ่อนแอกว่าแคนาดา เยอรมนี และฝรั่งเศส

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.80% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4700 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4819 ยูโร/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 1.01% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ 1.6280 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6446 ปอนด์/ดอลลาร์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (อาร์บีเอส) ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหนี้ของบริษัท ดูไบ เวิล์ด หลังจากมีข่าวว่าบริษัท นาคีล พีเจเอสซี ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือดูไบ เวิล์ด ดิ้นรนเจรจาเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้

ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 87.53 จุด ปิดที่ 5,223.13 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,206.38 - 5,323.36 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ