ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์มีแนวโน้มขยายตัว 5.5% ในปี 2553 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 4.5% และมากกว่าที่รัฐบาลสิงคโปร์คาดการณ์ไว้ที่ 3 - 4% เนื่องจากภาคการผลิตและอัตราการอุปโภคบริโภคในภาคสาธารณะเริ่มฟื้นตัวขึ้น
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ขยายตัว 14.2%ต่อปี ในไตรมาส 3 ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส และเป็นการขยายตัวต่อปีครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอย
สิงคโปร์เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้าไปขายในต่างประเทศ ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์มองว่าในยามที่เศรษฐกิจโลกยังอยู่ในระดับถดถอยเช่นนี้ อาจทำให้เศรษฐกิจสิงคโปร์ตกอยู่ในความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าจากข้อมูลในช่วงที่ผ่านมาทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์จะสามารถขยายตัวได้ถึง 5.5% ในปีหน้า
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจของธนาคารกลางสิงคโปร์ คาดว่า จีดีพีไตรมาส 4 ปี 2552 จะขยายตัว 4.7% ขณะเดียวกันคาดว่าภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์จะหดตัวลง 3.4% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 6.3% ในปีหน้า นอกจากนี้คาดว่า ยอดส่งออกจะพุ่งขึ้น 10.1% ในปีหน้า แต่จะหดตัวลง 12% ในปีนี้
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อุตสาหกรรมการก่อสร้างของสิงคโปร์อาจชะลอตัวลงในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้านี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น 7.1% ในปีหน้า ซึ่งยังน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ ส่วนอัตราการอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มพุ่งขึ้น 3.8% ในปีหน้า และธุรกิจการบริการด้านการเงินมีแนวโน้มขยายตัว 6.5%
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราว่างงานในสิงคโปร์จะอยู่ที่ระดับ 3.4% ในปีนี้ ก่อนที่จะลดลงสู่ระดับ 3% ในปีหน้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) จะอยู่ที่ 0.3% ในปีนี้ และ 2.8% ในปีหน้า อีกทั้งคาดว่าสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1.382 ดอลลาร์สิงคโปร์/ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.44 ดอลลาร์สิงคโปร์/ดอลลาร์สหรัฐ