นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการสายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ความผันผวนของค่าเงินบาทในขณะนี้ไม่ได้มาจากปัจจัยพื้นฐานของประเทศ แต่เป็นความเคลื่อนไหวตามทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่มีความผันผวนจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งธปท.จะเข้าไปดูแลเพื่อไม่ให้ระดับความผันผวนเป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจ
"ค่าเงินบาท 1-2 วันนี้ผันผวนอย่างมาก เดี๋ยวแข็งเดี๋ยวอ่อน ตามความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์ ตอนต้นอาทิตย์นี้ตลาดตอบรับตัวเลขรายได้นอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วกว่าที่คาดได้ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขณะที่บาทอ่อน แต่พอวันอังคาร ผู้ว่าเฟดออกมาพูดว่าจะยังคงดอกเบี้ยต่ำต่อไป เพราะเศรษฐกิจยังไม่เข้มแข็งพอ ก็เลยทำให้ดอลลาร์อ่อนค่าเงินภูมิภาคก็เลยแข็งค่าขึ้น"นายบัณฑิต กล่าว
ทั้งนี้ ธปท.มองว่าในปีหน้าความผันผวนจะมีมากขึ้นตามความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เพราะภาคอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง ขณะที่เศรษฐกิจเอเชียมีศักยภาพการฟื้นตัวมากกว่า ทำให้เงินไหลเข้าเอเชียเพื่อรับผลตอบแทนการลงทุนที่สูงกว่า ดังนั้น การไหลเข้าของเงินทุนก็จะทำให้ค่าเงินบาทเกิดความผันผวนไปด้วย ซึ่ง ธปท.จะดูแลความผันผวนตรงนี้
อย่างไรก็ตาม การไหลเข้ามาของเงินทุนจากต่างประเทศอาจจะสร้างความร้อนแรงในบางธุรกิจด้วย ซึ่ง ธปท.จะเข้าไปดูแลและใช้ความระมัดระวัง ซึ่งประเด็นนี้ก็ขึ้นกับธนาคารพาณิชย์ที่จะต้องดูแลด้วย โดยไม่ปล่อยกู้มากจนเกินไป จนสร้างความแรงกดดันต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจ