ธปท.หวังศก.โลกปีหน้าเป็นบวกหนุนศก.ไทยโตตาม แต่ตลาดเงินยังผันผวน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday December 11, 2009 10:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังต้องใช้เวลา ซึ่งทำให้เงินดอลลาร์ยังมีความผันผวนในช่วงต่อไป โดยประเด็นสำคัญของเศรษฐกิจโลกที่ต้องติดตาม คือ จีดีพีไตรมาส 3/52 จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปลายปี 51 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้ในปี 53

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกยังมีจุดอ่อน 3 ปัจจัย ที่ต้องใช้เวลาเพื่อกลับเข้าสู่ภาวะการขยายตัวปกติ ประกอบด้วย การว่างงานของสหรัฐที่ยังอยู่ระดับสูงถึง 10% เป็นข้อจำกัดในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนสหรัฐ ตัวเลขหนี้เสียของสหรัฐและยุโรปที่มีผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศยังปรับตัวสู่ขาลง ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

ทั้ง 3 ปัจจัยกระทบต่อการฟื้นตัวของประเทศกลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ทำให้การฟื้นตัวยังไม่เข้มแข็ง และกระทบต่อการส่งออกของไทย รวมทั้งทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่า ส่งผลให้มีเงินไหลเข้าประเทศในภูมิภาคเอเซีย รวมทั้งไทย ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินบาท และราคาหลักทรัพย์ในต่างประเทศ ภาวะการเงินต่างประเทศที่ผันผวนยังกระทบต่อตลาดเงินในประเทศ ดังนั้น ภาคธุรกิจยังต้องปรับตัวและตั้งรับให้ดี

นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า ธปท.คาดการณ์ว่าปี 53 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในอัตรา 3.3-5.3% โดยเศรษฐกิจโลกที่เป็นบวกในปี 53 จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจไทยได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่ขยายตัวมากขึ้น ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากการใช้จ่ายของภาครัฐเข้ามาสนับสนุน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยภาวะปัจจุบันเครื่องชี้เศรษฐกิจหลายด้านกลับเป็นบวกขึ้น และน่าจะขยายตัวดีขึ้นในปีหน้า

ส่วนกรณีปัญหาสภาพคล่องของดูไบและตลาดเกิดใหม่ยังมีจุดอ่อนอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าไม่กระทบถึงไทย เพราะสถานะของปัญหานั้นตลาดรับรู้ไปก่อนหน้า และวงเงินหนี้สินที่มีปัญหาอยู่ในเกณฑ์ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับขนาดสินทรัพย์ที่มี และตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คือ ปัญหาไม่ได้ทรุดลง หนี้สินไม่กระทบในวงกว้าง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ