จีนขึ้นรั้งอันดับหนึ่งในฐานะตลาดยานยนต์รายใหญ่สุดของโลก พร้อมเขี่ยสหรัฐหล่นอันดับ หลังจากยอดขายของสหรัฐในต้นปีนี้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปี และยังคงอยู่ต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยที่ 17 ล้านคัน
เจ.ดี.พาวเวอร์ แอนด์ แอซโซซิเอทส์เปิดเผยว่า ในปีนี้จีนมียอดขายยานยนต์ในประเทศเพิ่มขึ้น 44% จากปีที่ผ่านมา แตะที่กว่า 12.7 ล้านคันจากอานิสงส์ของมาตรการปรับลดภาษี การกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ในตลาดสหรัฐที่เลวร้าย อีกทั้งตัวเลขที่มีรายงานออกมานี้ยังสูงกว่าที่ประมาณการณ์ในสหรัฐว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 10.3 ล้านคัน
โดยรัฐบาลจีนได้เดินหน้าใช้นโยบายลดดอกเบี้ยรถยนต์ขนาดเล็กและจัดสรรเงินอุดหนุน 730 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อกระตุ้นยอดขายรถ SUV รถปิ๊กอัพ และรถมินิแวน หลังจากที่ยอดขายยานยนต์ในจีนดิ่งลงอย่างหนักในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เจ.ดี.พาวเวอร์คาดการณ์ว่า จีนจะแซงหน้าสหรัฐในการยึดตำแหน่งตลาดยานยนต์รายใหญ่สุดของโลกในปี 2568 โดยก่อนหน้านี้ คาดว่ายอดขายรถในปีนี้จะมีเพียง 9 ล้านคัน ซึ่งยอดขายยานยนต์ที่กระเตื้องขึ้น รวมถึงยอดขายสินค้าขนาดใหญ่ประเทศอื่นๆที่ขยายตัวล้วนเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดยุทธศาสตร์กระตุ้นการอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และลดอัตราการพึ่งพาการส่งออก
ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะไม่ปล่อยให้อุตสาหกรรมยานยนต์อ่อนแอลงโดยเฉพาะในช่วงปีหน้า