นายกุลิศ สมบัติศิริ รองผู้อำนวยการ และโฆษกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) เปิดเผยถึง ผลการนำส่งรายได้รัฐวิสาหกิจประจำเดือนพฤศจิกายน 2552 ว่า รัฐวิสาหกิจสามารถนำส่งรายได้เข้ารัฐเป็นจำนวน 4,667.14 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้จำนวน 3,457.35 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการ 1,209.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 34.99
สำหรับรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้เข้ารัฐประจำเดือนพฤศจิกายน 2552 ได้แก่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท.) จำนวน 2,096 ล้านบาท สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 1,120 ล้านบาท (ซึ่งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้จัดพิมพ์สลากเพิ่มอีกจำนวน 4 ล้านฉบับ รวมทั้งสิ้น 50 ล้านฉบับ) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 643 ล้านบาท (ซึ่งขอแบ่งนำส่งเงินรายได้แผ่นดินออกเป็น 2 งวด คือ เดือนตุลาคม จำนวน 800 ล้านบาท และเดือนพฤศจิกายน 2552 จำนวน 643 ล้านบาท ) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 530 ล้านบาท (ซึ่งขอแบ่งการนำส่งรายได้แผ่นดิน 6 งวด โดยเดือนตุลาคม 2552 — เดือนกุมภาพันธ์ 2553 จำนวนเดือนละ 530 ล้านบาท และเดือนมีนาคม 2553 จำนวน 546 ล้านบาท) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) จำนวน 213.87 ล้านบาท (ซึ่งขอแบ่งการนำส่งรายได้แผ่นดินออกเป็น 2 งวด คือ เดือนพฤศจิกายน จำนวน 231.87 ล้านบาท และเดือนธันวาคม 2552 จำนวน 200 ล้านบาท) สหโรงแรมไทยและการท่องเที่ยว จำนวน 1.77 ล้านบาท และกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่าร้อยละ 50 คือ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด จำนวน 62.50 ล้านบาท
นายกุลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้เข้ารัฐต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ ได้แก่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เนื่องจากผลการดำเนินงานขาดทุน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เนื่องจากนำส่งรายได้แล้วในเดือนตุลาคม 2552 จำนวน 835.75 ล้านบาท
“อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าที่ประมาณการไว้ คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำส่งรายได้ จำนวน 1,120 ล้านบาท จากที่ประมาณการไว้ที่จำนวน 89.60 ล้านบาท เนื่องจาก สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้จัดพิมพ์สลากเพิ่มอีกจำนวน 4 ล้านฉบับ รวมทั้งสิ้น 50 ล้านฉบับ และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (กสท.) นำส่งรายได้ จำนวน 2,096 ล้านบาท จากที่ประมาณการไว้ที่จำนวน 1,106 ล้านบาท" นายกุลิศกล่าว