ญี่ปุ่นตัดสินใจยกเลิกแผนการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมในปีงบประมาณ 2553 ที่จะเริ่มต้นในเดือนเม.ย. 2553 เนื่องจากภาคธุรกิจและนักการเมืองฝั่งรัฐบาลที่เตรียมจะลงศึกเลือกตั้งสภาสูงในปีหน้าไม่เห็นด้วยกับแผนการดังกล่าว ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า รัฐบาลอาจจะมีปัญหาในการระดมทุนเพื่อนำมาใช้กับโครงการหลักๆมากกว่าเดิม หลังจากที่รายได้จากการจัดเก็บภาษีลดลง
รัฐบาลซึ่งอยู่ภายใต้การนำของพรรคเดโมเครติค พาร์ตี ออฟ เจแปน อาจจะไม่ยกเลิกการจัดเก็บภาษีที่เกี่ยวกับยานยนต์และเชื้อเพลิงทั้งหมดภายในช่วงสิ้นปีงบประมาณ 2552 เนื่องจากการยกเลิกภาษีทั้งหมดอาจจะทำให้รัฐบาลขาดรายได้ถึง 2.5 ล้านล้านเยน ขณะที่ครม.กำลังจะตัดสินใจเรื่องการปฏิรูปภาษีบางรายการในปีงบประมาณ 2553 ช่วงปลายสัปดาห์นี้
ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีคลัง และรัฐมนตรีฝ่ายกิจการภายในเห็นชอบให้รัฐบาลนำมาตรการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมมาใช้ในปีงบประมาณ 2553 ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมที่ต้องรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้นเกรงว่า การจัดเก็บภาษีแบบใหม่จะทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องพลังงานสูงขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลยังคงกังวลด้วยว่าการจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมอาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย จึงชะลอเวลาในการนำมาตรการภาษีดังกล่าวมาใช้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน