IMF คาดเศรษฐกิจเอเชียแข็งแกร่งผลักดันเศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.1% ในปี 53

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 15, 2009 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยรายงาน "World Economic Outlook" โดยคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.1% ในปี 2553 ซึ่งการขยายตัวที่แข็งแกร่งของเอเชียจะเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่า ในบรรดากลุ่มประเทศอุตสาหกรรมนั้น สหรัฐอเมริกาจะขยายตัวแซงหน้าเศรษฐกิจชาติยุโรป เนื่องจากระบบการเงินและตลาดแรงงานในสหรัฐส่งสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่อัตราว่างงานที่สูงขึ้นในยุโรปมีแนวโน้มบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน

ไอเอ็มเอฟคาดว่า ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวได้สูงถึง 3.1% ในปี 2553 มาจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยุโรป รวมถึงจีนและอินเดียที่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 18 เดือน ส่วนในปี 2552 นั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัว 1.1% แต่ไอเอ็มเอฟเชื่อว่าอัตราว่างงานของหลายประเทศทั่วโลกจะชะลอตัวลงในปีนี้

ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่าเอเชียจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้น โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัว 9% และเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัว 6.4% ในปี 2553 ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะเงินฝืดอย่างรุนแรงนั้น คาดว่าจะหดตัวลง 5.4% ในปี 2552 และจากนั้นจะเริ่มขยายตัว 1.7% ในปี 2553 เนื่องจากยอดส่งออกญี่ปุ่นมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่าตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคและตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลกมีแนวโน้มดีดตัวขึ้น ขณะที่เงินเฟ้ออาจปรับตัวลดลง และคาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีแนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นในปีหน้า ส่วนอัตราว่างงานในสหรัฐซึ่งยืนอยู่ที่ระดับ 10% ในเดือนพ.ย. ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ระดับ 10.2% ในเดือนต.ค.นั้น มีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว

ส่วนในฟากยุโรปนั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่าเยอรมนีซึ่งมีระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จะขยายตัว 1.6% ในปี 2553 แต่คาดว่าจะหดตัวลง 4.9% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจละตินอเมริกานั้น คาดว่า เศรษฐกิจบราซิลจะขยายตัว 5% เนื่องจากยอดส่งออกฟื้นตัวขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจเม็กซิโกจะขยายตัว 3% และชิลีจะขยายตัว 5% ในปี 2553

นอกจากนั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจในตะวันออกกลางซึ่งได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ จะขยายตัว 2% ในปี 2552 และขยายตัว 4.2% ในปี 2553


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ