ภาคเอกชนไต้หวันคาดการณ์ว่า การเจรจาเรื่องข้อตกลงเปิดเสรีการค้ารอบใหม่กับจีนจะช่วยกระตุ้นการแข่งขันทางธุรกิจให้ร้อนแรงมากขึ้น
นักสังเกตุการณ์ด้านการค้ามองว่า การที่ไต้หวันตั้งข้อจำกัดด้านการลงทุนกับจีนนั้นส่งผลตรงข้ามกับที่ไต้หวันอยากให้เป็น ยกตัวอย่างในกรณีของบริษัท AU Optronics และผู้ผลิตชิพและจอแอลซีดีรายอื่นๆของไต้หวันที่ไม่สามารถผลิตเทคโนโลยีที่ทันสมัยในตลาดจีนที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลกได้ เพราะติดอุปสรรคด้านความสัมพันธ์ในช่องแคบไต้หวันที่ตึงเครียดมานาน 60 ปี ซึ่งต่างจากบริษัทผู้ส่งออกสินค้าชื่อดังของเกาหลีใต้อย่างซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์และแอลจี ดิสเพลย์ โค ที่สร้างโรงงานเพื่อผลิตสินค้าเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดจีนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทของไต้หวันเริ่มหันมาประเมินขีดจำกัดทางการค้ารอบใหม่ ขณะเดียวกันก็พยายามที่จะสร้างความเชื่อมั่นว่า ธุรกิจของตนจะไม่สูญเสียขีดความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดจีน
โดยประธานของ AU เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงนโยบายที่จะช่วยเอื้อประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมและส่งผลดีต่อบริษัทแต่ละแห่ง
ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่ผ่านมาไต้หวันและจีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมการเงิน และในเดือนต่อไปจะเริ่มเจรจาข้อตกลงกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (ECFA) ขณะที่รัฐบาลไต้หวันประกาศแผนเริ่มศึกษาด้านการผ่อนคลายข้อบังคับการลงทุนในธุรกิจจอแอลซีดีในเดือนนี้ ด้วยเกรงว่าไต้หวันจะเสียผลประโยชน์ด้านการแข่งขันในตลาดจีน หากไม่สามารถเข้ามาลงทุนในแผ่นดินใหญ่ได้