นายไซนาล อัซนาม สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติของมาเลเซียเปิดเผยว่า สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติกำลังศึกษาว่านโยบายเงินริงกิตแข็งค่ามีประโยชน์พอที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคหรือไม่ แม้ในขณะนี้ทางรัฐบาลได้ปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินริงกิตเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดก็ตาม
นายไซนาลกล่าวว่า มาเลเซียกำลังศึกษานโยบายเงินริงกิตแข็งค่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการพลิกฟื้นเศรษฐกิจมาเลเซียให้ก้าวขึ้นเป็นชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่มีรายได้สูงในอีก 10 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจเล็งเห็นว่าเงินริงกิตที่แข็งค่าอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมส่งออกที่เพิ่งขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปีเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ณ เวลา 09.21 น.ตามเวลากัวลาลัมเปอร์ในวันนี้ ค่าเงินริงกิตพุ่งขึ้น 0.1% แตะที่ 3.4065 ริงกิตต่อดอลลาร์ โดยริงกิตแข็งค่าขึ้นไปแล้ว 1.4% ในปีนี้ หลังจากดิ่งลง 4.2% ในปี 2551
สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซียได้รับการจัดตั้งโดยนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค เมื่อครั้งที่เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำมาเลเซียในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยสภาแห่งนี้มีหน้าที่กำหนดยุทธศาสตร์การผลักดันให้มาเลเซียจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่มีรายได้สูงภายใน 10 ข้างหน้า ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวครอบคลุมถึงการกระตุ้นรายได้ภายในประเทศและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจจากเดิมที่เคยพึ่งพาอุตสาหกรรมส่งออกเพียงอย่างเดียว
กระทรวงการคลังมาเลเซียคาดการณ์ว่า รายได้ต่อหัวของประชาชาติภายในประเทศจะขยายตัว 2.5% แตะระดับ 24,4661 ริงกิต หรือ 7,244 ดอลลาร์สหรัฐภายในปีหน้า โดยธนาคารโลกจัดให้มาเลเซียติดกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ขณะที่สิงคโปร์และบรูไน เป็นเพียง 2 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ติดกลุ่มประเทศที่มีรายได้สูง โดยมีรายได้ต่อหัวของประชาชาติสูงถึง 11,906 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2551