สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.ร่วงลง 4.4%ต่อปี ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 แต่ปรับตัวลงน้อยกว่าเดือนก.ย.ที่ร่วงลง 12% เนื่องจากเศรษฐกิจสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 3
รายงานระบุว่า ยอดขายยานยนต์เดือนต.ค.ของสิงคโปร์ลดลง 15% ยอดขายอัญมณีและนาฬิกาลดลง 4.7% ยอดขายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านลดลง 2.4% ส่วนยอดขายในห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้น 1%
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ ขยายตัว 14.2%ต่อปี ในไตรมาส 3 ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส และเป็นการขยายตัวต่อปีครั้งแรกนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคบริการและภาคอุตสาหกรรมช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ดีดตัวขึ้นจากภาวะถดถอย
ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์มีแนวโน้มขยายตัว 5.5% ในปี 2553 ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัวเพียง 4.5% และมากกว่าที่รัฐบาลสิงคโปร์คาดการณ์ไว้ที่ 3 - 4% เนื่องจากภาคการผลิตและอัตราการอุปโภคบริโภคในภาคสาธารณะเริ่มฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ตอบแบบสำรวจของธนาคารกลางสิงคโปร์ คาดว่า จีดีพีไตรมาส 4 ปี 2552 จะขยายตัว 4.7% ขณะเดียวกันคาดว่าภาคอุตสาหกรรมของสิงคโปร์จะหดตัวลง 3.4% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 6.3% ในปีหน้า นอกจากนี้คาดว่า ยอดส่งออกจะพุ่งขึ้น 10.1% ในปีหน้า แต่จะหดตัวลง 12% ในปีนี้