ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่ง หลัง PPI สหรัฐจุดกระแสวิตกเงินเฟ้อ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 16, 2009 07:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ที่สูงเกินคาด ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.85% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4530 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4655 ยูโร/ดอลลาร์ และทะยานขึ้น 1.17% เมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 89.630 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 88.590 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.86% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0405 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0316 ฟรังค์/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6266 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6310 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.16% แตะที่ 0.9059 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.9165 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.82% แตะที่ 0.7216 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7276 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีพีพีไอเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.8% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 2 เท่า ขณะที่ดัชนีพีพีไอซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ดีดขึ้น 0.5% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นรุนแรงสุดในรอบกว่า 1 ปี

ดัชนีพีพีไอที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในเดือนพ.ย.เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการที่รัฐบาลและเฟดอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินจำนวนมาก นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มีท่าทีระมัดระวังและจับตาดูการประชุมเฟดครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีกระแสคาดการณ์ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่รุนแรงอาจทำให้เฟดตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำ 0 - 0.25%

นอกจากนี้ เฟดรายงานว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 0.8% ทำสถิติเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งการผลิตที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่าโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐมีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นด้วย

ค่าเงินยูโรดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป ZEW เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนธันวาคม เนื่องจากความวิตกว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเริ่มชะลอตัว รวมถึงการที่กรีซมีตัวเลขขาดดุลสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในยุโรป

นอกเหนือจากการประชุมกำหนดนโยบายของเฟดซึ่งจะมีการเปิดเผยในคืนวันพุธตามเวลาประเทศไทยแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูรายงานเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันพุธด้วย โดยกระทรวงแรงงานเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย.และข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 3

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานจะรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย. ส่วนวันศุกร์ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ