สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นมาตรวัดการขยายตัวของเศรษฐกิจ ขยายตัวขึ้น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงถนน ท่าเรือ และโรงเรียน
นายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่สามารถต้านทานวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ จะขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อเนื่องไปจนถึงปี 2553 เนื่องจากดีมานด์การส่งออกสินค้าจำพวกแร่เหล็กจากออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน รวมถึงถนนและท่าเรือ ยังเป็นอีกปัจจัยที่หนุนเศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วย
สำนักงานสถิติแห่งชาติฯระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 0.7% หรือคิดเป็นร้อยละ 0.4 ของตัวเลขจีดีพี
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ตัวเลขจีดีพีที่ขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 3 อาจทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมครั้งหน้า หลังจากธนาคารกลางได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.75% ในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในระยะเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์
ภาคเอกชนของออสเตรเลียเพิ่มการจ้างงาน 99,500 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2549 ส่งผลให้อัตราว่างงานดิ่งลงไปอยู่ที่ระดับ 5.7% ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นทำให้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า นายเกลน สตีเฟ่น ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในช่วงต้นปีหน้า