นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่กรอบ 0 - 0.25% ในการประชุมคืนนี้ และคาดว่าเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดและคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ คาดว่าเฟดจะเปิดเผยแผนการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งรวมถึงโครงการซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน วงเงิน 1.43 ล้านล้านดอลลาร์
การประชุมเฟดครั้งสุดท้ายของปี 2552 มีขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ 15 ธ.ค.และจะเสร็จสิ้นในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย โดยการประชุมดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวรวดเร็วกว่า 4% ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าแถลงการณ์ของเฟดที่จะมีขึ้นในคืนนี้มีเป้าหมายที่จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจกำลังขยายตัว และจะทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในต้นปีหน้า
แถลงการณ์ของเฟดในการประชุมครั้งก่อนระบุว่า เฟดมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวและยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง พร้อมเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ วงเงินรวม 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยการดำเนินการดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนต.ค. นอกจากนี้ เฟดมีมติให้ขยายเวลาการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล รวมถึงแฟนนี เม และเฟรดดี แมค วงเงินรวม 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ และขยายเวลาการเข้าซื้อตราสารหนี้ของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล วงเงินรวม 2 แสนล้านดอลลาร์ ไปจนถึงไตรมาสแรกของปีพ.ศ.2553