(เพิ่มเติม) ผู้ค้าทุกราย ประกาศปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 50 สต.มีผลพรุ่งนี้เช้า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 16, 2009 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ผู้ค้าน้ำมันทุกรายประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลลงลิตรละ 50 สตางค์ โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป(17.ธ.ค.) ตามราคาน้ำมันตลาดโลกที่ลดลงก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันของสถานีบริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลในวันพรุ่งนี้จะเป็นดังนี้ ดีเซลลดลงเหลือลิตรละ 27.19 บาท ไบโอดีเซล บี 5 เหลือลิตรละ 25.79 บาท ส่วนกลุ่มน้ำมันเบนซินราคายังคงเดิม โดยเบนซิน 91 ลิตรละ 34.84 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 31.24 บาท และแก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 30.44 บาท

นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ตลาดขายปลีกหน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า หลังจากที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปดีเซลในตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงตามแรงกดดันจากปริมาณสำรองทั่วโลกที่อยู่ในภาวะล้นตลาด โดยล่าสุดปริมาณสำรอง Gas Oil บริเวณ Amsterdam Rotterdam Antwerp สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ธ.ค.52 อยู่ที่ 21.31 ล้านบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 54%

นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำมันดีเซลที่กักเก็บอยู่บนเรืออาจทะลุระดับ 100 ล้านบาร์เรล ภายในสิ้นเดือน ม.ค.53 ในวันนี้ ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 72.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจากวันก่อน 0.13 ดอลลาร์/บาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปดีเซลสิงคโปร์ปรับตัวลดลงมากกว่าน้ำมันดิบดูไบมาอยู่ที่ 77.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจากวันก่อน 0.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันสำเร็จรูปเบนซินสิงคโปร์ ปรับตัวขึ้นสวนทาง อยู่ที่ 78.11 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 0.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

นายวิทยา กล่าวว่า ราคาน้ำมันยังคงอ่อนไหวตามข่าวรายวัน โดย National Weather Service คาดการณ์ความต้องการใช้เชื้อเพลิงเพื่อทำความอบอุ่นในสหรัฐฯ ภายในสัปดาห์นี้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าค่าปกติ 5.9% นอกจากนี้นักลงทุนยังมีแนวโน้มลดการเก็งกำไรเนื่องจากใกล้เทศกาลวันหยุดยาว

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันคาดการณ์ว่าในปี 53 ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจที่คลี่คลายลง ประกอบกับการคงมาตรการดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจทำให้นักลงทุนมีเม็ดเงินหมุนเวียนและเพิ่มการลงทุนใน Risky Assets ให้ติดตามนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการพยากรณ์อากาศว่าอุณหภูมิจะปรับลดลงหรือไม่ เพราะล้วนส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ