นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง(คณะกรรมการ 4 ฝ่าย) ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ จะเร่งสรุปเรื่องการจัดทำหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ ปี 50 มาตรา 67 วรรคสอง ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ทั้งเรื่องการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA) รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสีย
ส่วนการจัดตั้งองค์การอิสระยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน โดยฝ่ายภาคอุตสาหกรรมเห็นว่าควรจัดตั้งองค์การอิสระได้มากกว่า 1 แห่ง หากมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ขณะที่ภาคประชาชนต้องการให้มีเพียงองค์กรเดียวที่สามารถคัดกรองทุกโครงการลงทุน ทั้งนี้คาดว่า คณะกรรมการ 4 ฝ่ายจะสามารถสรุปแนวทางการทำงานทั้งหมดเสนอนายกรัฐมนตรีได้ภายในสัปดาห์หน้า และรัฐบาลจะสามารถออกประกาศเพื่อเป็นแนวทางปฎิบัติให้ภาคเอกชนได้ทันภายในปีนี้
ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า การทำงานของคณะกรรมการ 4 ฝ่ายต้องปราศจากการแทรกแซงของรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดทำประเภทกิจการที่มีผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน 19 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการที่นำหลักการมาจากภาคประชาสังคม เพื่อให้การทำงานเสร็จในสิ้นปีนี้
ขณะที่การจัดตั้งองค์การอิสระเพื่อตรวจพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญนั้น ยืนยันว่า จะต้องมีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น โดยจะมีคณะกรรมการ 13 คน หากมีงานล้นมือก็สามารถตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาช่วยพิจารณาเป็นรายโครงการได้
สำหรับโครงการที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ระงับโครงการไว้นั้นหากปฎิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างครบถ้วนก็สามารถไปยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครองกลางยกเลิกคำสั่งฯ และเดินหน้าโครงการต่อไปได้
ทั้งนี้ เป็นการสัมมนาวิชาการเรื่องมาบตาพุด-เขตควบคุมมลพิษ-การระงับโครงการชั่วคราว:ทางออกประเทศไทย ซึ่งจัดโดย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย