ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ประกาศระดมทุน 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการขายหุ้น 5.4 พันล้านหุ้นที่ราคา 3.15 ดอลลาร์/หุ้นเพื่อหาเงินชำระหนี้รัฐบาล ส่งผลให้กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเลื่อนแผนขายหุ้น 1 ใน 3 ที่ถืออยู่ในซิตี้กรุ๊ป เนื่องจากเห็นว่าราคาขายหุ้นต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าหุ้นซิตี้กรุ๊ปที่รัฐบาลซื้อมาในราคา 3.25 ดอลลาร์/หุ้นเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา
โดยทางกระทรวงคลังสหรัฐถือหุ้นสามัญของซิตี้กรุ๊ปอยู่ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และถือหุ้นบุริมสิทธิ์รวมกับหุ้นที่ได้จากข้อตกลงค้ำประกันหลักทรัพย์มูลค่า 2.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหุ้นสามัญค้างชำระของซิตี้กรุ๊ปเพิ่มขึ้นแตะที่ 2.83 หมื่นล้านหุ้น จากระดับ 2.29 หมื่นล้านหุ้นในสิ้นเดือนก.ย. และขยายตัวขึ้นจาก 5 พันล้านหุ้นเมื่อช่วงสิ้นปี 2550
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก เป็นสามธนาคารที่ระดมทุนเป็นเงินรวมกันกว่า 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่อชำระหนี้คืนรัฐบาลในโครงการบรรเทาสินทรัพย์ที่มีปัญหาของรัฐบาล (TARP)
ขณะเดียวกัน เวลส์ ฟาร์โก ได้ยื่นข้อเสนอซื้อวาโชเวีย กรุ๊ป แซงหน้าซิตี้กรุ๊ปเมื่อปีที่แล้ว และธนาคารเสร็จสิ้นการขายหุ้น 1.225 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคได้จ่ายหนี้คืนรัฐบาลจำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ธนาคารจะขายหุ้นและหนี้สินรวมอย่างน้อย 2.05 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อชำระหนี้คืนรัฐบาล และหลังจากนั้นทางกระทรวงคลังสหรัฐได้ออกมาประกาศขายหุ้น 5 พันล้านดอลลาร์