ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรง หลัง FED ส่งสัญญาณถอนมาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวต่างประเทศ Friday December 18, 2009 07:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ธ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ หลังจากที่เฟดส่งสัญญาณการถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งล่าสุด รวมถึงชะลอโครงการเข้าซื้อตราสารหนี้และหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 1.33% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4343 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.4536 ยูโร/ดอลลาร์ และดีดขึ้น 0.18% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 89.940 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 89.780 เยน/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.85% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ 1.0467 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับของวันพุธที่ 1.0379 ฟรังค์/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 1.08% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6158 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6334 ปอนด์/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.52% แตะที่ 0.8869 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันพุธที่ 0.9006 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 1.61% แตะที่ 0.7093 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ 0.7209 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากคณะกรรมการเฟดระบุว่าจะค่อยๆชะลอการเข้าซื้อหลักทรัพย์และตราสารหนี้ ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกันของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล วงเงินรวม 1.25 ล้านล้านดอลลาร์ และจะให้โครงการดังกล่าวหมดอายุลงในไตรมาสแรกของปี 2553 นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดจะเริ่มปิดวงเงินสว็อปสภาพคล่องภายในวันที่ 1 ก.พ.และค่อยๆลดวงเงินในโครงการ Term Auction Facility ในช่วงต้นปี 2553

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีท่าทีวิตกกังวลหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการในระหว่างว่างงานสัปดาห์ที่แล้วพุ่งขึ้นแตะระดับ 480,000 ราย เพิ่มขึ้น 7,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

ส่วนค่าเงินยูโรและเงินปอนด์ได้รับแรงกดดันหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลงหนึ่งขั้น สู่ระดับ BBB+ จากเดิมที่ระดับ A- และเตือนว่าจะลดอันดับเครดิตลงอีก นอกเสียจากว่ารัฐบาลกรีซจะดำเนินการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ ซึ่งในขณะนี้ยอดขาดดุลงบประมาณของกรีซพุ่งขึ้นสูงสุดในบรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู)

โดยการประกาศลดอันดับเครดิตของ S&P มีขึ้นหลังจากที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตของกรีซลงสู่ระดับ BBB+ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนให้รัฐบาลกรีซเร่งลดยอดขาดดุลงบประมาณโดยเร็ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ