คณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ มีมติด้วยคะแนนเสียง 16 ต่อ 7 อนุมัติการเสนอชื่อนายเบน เบอร์นันเก้ วัย 56 ปี ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่ออีกสมัย ขณะที่การดำรงตำแหน่งสมัยแรกจะครบวาระในเดือนม.ค.ปี 2553 โดยการลงมติครั้งนี้มีขึ้นหลังจากสมาชิกวุฒิสภาใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงในการอภิปรายแสดงความเห็น ซึ่งมีทั้งผู้ที่กล่าวยกย่องและผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ประธานเฟดผู้นี้
ในระหว่างการลงคะแนนเสียงนั้น วุฒิสมาชิกคริสโตเฟอร์ ด็อดด์ ประธานวุฒิสภาสังกัดพรรคเดโมแครตกล่าวว่า เบอร์นันเก้มีภาวะผู้นำ และการเป็นผู้นำอันชาญฉลาดของเบอร์นันเก้จะนำพาสหรัฐอเมริกาไปสู่วันที่ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม วุฒิสมาชิก 7 คน รวมถึงนายริชาร์ด เชลบี นายจิม บันนิ่ง และนายจิม เดมินท์ ได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเบอร์นันว่า เบอร์นันเก้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหลายอย่างจนไปสู่วิกฤตการณ์การเงิน รวมทั้งนำเงินภาษีราษฎรไปอุ้มกิจการบริษัทในวอลล์สตรีท และไม่สามารถกอบกู้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้ นอกจากนี้ มติเห็นชอบในการแต่งตั้งเบอร์นันเก้ยังมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ชาวอเมริกันจำนวนมากแสดงความไม่พอใจต่อการทำงานของเฟด
"เราไม่ไว้วางใจในความเป็นผู้นำของเบอร์นันเก้ เราไม่สามารถมีประธานเฟดที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ไว้วางใจได้" นายเดมินท์กล่าว
ทั้งนี้ การที่วุฒิสมาชิกหลายคนไม่ให้การสนับสนุนเบอร์นันเก้ อาจทำให้การลงนามรับรองเบอร์นันเก้อย่างเป็นทางการและเต็มรูปแบบในวุฒิสภาต้องถูกเลื่อนออกไปจนถึงเดือนม.ค.ปีหน้า และแม้ว่าเบอร์นันเก้ยังคงดำรงตำแหน่งรักษาการประธานเฟด แต่ความล่าช้าในการรับรองชื่อเขาก็อาจส่งผลกระทบต่ออำนาจการทำงานของเขาด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เฟดเตรียมถอนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
ในขณะที่วุฒิสภาสหรัฐยังหาข้อยุติไม่ได้เรื่องการรับรองเบอร์นันเก้นั้น "นิตยสารไทมส์" ประกาศยกย่องเบอร์นันเก้ให้เป็นบุคคลแห่งปี โดยไทมส์ระบุว่าเบอร์นันเก้เป็นผู้นำที่มีความคิดสร้างสรรค์และเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอย
เบอร์นันเก้ ซึ่งมีชื่อเต็มว่า เบน ชาโลม เบอร์นันเก้ เกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.1953 ในเมืองออกัสตา รัฐจอร์เจีย และเติบโตที่เมืองดิลลอน รัฐเซาธ์แคโรไลนา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2518 จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด และระดับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2522 จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) ได้รับการเสนอชื่อจากอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนายอลัน กรีนสแปนในปีพ.ศ.2549
ก่อนหน้าที่เบอร์นันเก้จะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานเฟดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2549 นั้น เขาเคยดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างเดือนมิ.ย.2548 ถึงเดือนม.ค.2549 นอกจากนี้ เบอร์นันเก้เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์และกิจการสาธารณะที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในช่วงปี 2528-2545 และเคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และ เอ็มไอที
เบอร์นันเก้ถือเป็นประธานเฟดที่กล้าเปิดตัวต่อสื่อมวลชน โดยในปีนี้เขาปรากฎตัวในรายการ "60 Minutes" ของสถานีโทรทัศน์ CBS ซึ่งเป็นรายการที่ได้รับความนิยมของสหรัฐ และในการประชุมที่ศาลากลางในเมืองแคนซัส ซิตี้ รัฐมิสซูรี