นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ขอให้ภาคเอกชนหยุดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเสียหายของโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดหลังศาลมีคำสั่งให้ระงับโครงการชั่วคราว แต่ควรจะหันมาให้ข้อมูลตัวเลขผลกระทบที่แท้จริง เพื่อที่รัฐบาลจะได้รวบรวมข้อมูลไว้นำไปหารือกับอัยการใช้เป็นช่องทางสำหรับการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองต่อไป
"เอกชนอย่ามัวแต่บ่น ควรให้ความร่วมมือกับทางราชการ และเลิกพูดเรื่องความเสียหายสักที เพราะความเสียหายที่เป็นเม็ดเงินไม่คุ้มค่ากับที่คนไทยล้มตาย หนึ่งชีวิตก็ไม่คุ้มแล้ว" นายกอร์ปศักดิ์ ระบุ
อย่างไรก็ดี จากที่ได้ตรวจสอบผลกระทบความเสียหายพบว่า กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตปูนซีเมนต์ได้รับผลกระทบมากที่สุด
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้ารัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้นัดหารือร่วมกับภาคเอกชนญี่ปุ่นที่เข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อจะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงและทำความเข้าใจที่ถูกต้องแก่นักลงทุนหลังจากที่ศาลปกครองมีคำสั่งระงับโครงการลงทุนชั่วคราว
พร้อมกันนี้มั่นใจว่าทุกโครงการยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะตามคำสั่งศาลปกครองไม่ได้สั่งระงับไม่ให้มีการก่อสร้างโครงการในพื้นที่มาบตาพุด แต่เพียงต้องการให้เข้าไปแก้ไขหลักเกณฑ์เรื่องสิ่งแวดล้อมทั้งการทำ EIA และ HIA ให้เรียบร้อยก่อน