โจเซฟ สติกลิทซ์ ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 2 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังเปราะบางและจำเป็นต้องได้รับมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล
สติกลิทซ์กล่าวในการประชุมที่สิงคโปร์วันนี้ว่า "มีความเป็นไปได้ที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 หากเศรษฐกิจฟื้นตัว สหรัฐก็ไม่จำเป็นต้องทุ่มงบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ถ้าไม่ รัฐบาลต้องมีเงินในคลังที่พร้อมจะนำออกมาอัดฉีดในระบบเศรษฐกิจ ถ้ารัฐบาลไม่เตรียมพร้อมตั้งแต่ตอนนี้และเศรษฐกิจเกิดชะลอตัว ถึงเวลานั้นก็ไม่ทันการแล้วและสหรัฐจะเข้าสู่สถานการณ์ที่ยากลำบากมากๆ"
สติกลิทซ์ยังกล่าวด้วยว่า การที่สหรัฐและประเทศอื่นๆเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นับว่าเร็วเกินไป เนื่องจากตลาดแรงงานของสหรัฐยังตึงตัวอย่างหนัก ซึ่งการแสดงความเห็นของสติกลิทซ์สอดคล้องกับที่ พอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ กล่าวไว้เมื่อเดือนที่แล้วว่า สหรัฐจะต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับที่ 2 มิฉะนั้นอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่อัตราว่างงานพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปี
ทั้งนี้ สติกลิทซ์เป็นศาสตราจารย์ประจำมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และเป็นอดีตที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาวในยุคที่บิล คลินตัน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สติกลิทซ์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2544 จากงานวิจัยเรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในตลาดทั่วโลก เป็นข้อมูลที่นักเศรษฐศาสตร์คนอื่นๆไม่สามารถตีแผ่ได้อย่างลึกซึ้ง