"ชาญชัย"ปลื้มโรดโชว์ยุโรป นลท.เล็งยึดไทยเป็นฐานผลิต-ขยายการลงทุนเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 22, 2009 11:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงผลการเดินทางไปชักชวนการลงทุนใน 3 ประเทศสำคัญของกลุ่มสหภาพยุโรป(EU) คือ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลีว่า ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย เนื่องจากบริษัทชั้นนำที่ได้พบปะหารือได้ยืนยันที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตต่อไป รวมทั้งแสดงความสนใจที่จะขยายการลงทุนในอนาคตด้วย

โดยในส่วนของการชักชวนการลงทุนที่ประเทศเยอรมนี พบว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์และผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำ ต่างแสดงความสนใจจะเข้ามาลงทุนในไทย เช่น บริษัทบอช มีความสนใจลงทุนด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ เนื่องจากมองว่าไทยมีศักยภาพในด้านทรัพยากรธรรมชาติที่มีแสงแดดตลอดทั้งปี รวมทั้งได้รับทราบว่าประเทศไทยมีแผนระยะยาวในด้านการส่งเสริมให้เกิดการใช้พลังงานทดแทน

ส่วนบริษัท บีเอ็มดับเบิ้ลยู มีแผนที่จะพัฒนาด้านรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี และมีความสนใจจะขยายตลาดในประเทศไทยและในอาเซียน โดยเฉพาะรถยนต์รุ่นซีรีส์ 7 ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด และแผนการลงทุนในอนาคตของบีเอ็มดับเบิ้ลยูนั้นจะมีการหารือกับบีโอไอต่อไป

ขณะที่บริษัท เมอร์เซเดส เบนซ์ มีนโยบายด้านการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและมีการผลิตด้านรถขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ และมีความสนใจที่จะเข้ามาขยายตลาดในประเทศไทยด้วย รวมทั้งบริษัท ออดี้ โฟล์คสวาเก้น สนใจจะจัดซื้อชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตในประเทศไทย เพราะมีความมั่นใจว่าชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทยมีคุณภาพสูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ

สำหรับกิจกรรมพบปะหารือของกระทรวงอุตสาหกรรมกับบริษัทชั้นนำของเยอรมนีนั้น พบว่า กลุ่มบริษัทผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์สนใจเข้ามาลงทุนในไทยในลักษณะการบริหารระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนบริษัทผู้ผลิตกรอบแว่นตาของเยอรมนี ซึ่งมีการลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้ว ก็มีแผนที่จะขยายการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น และบริษัทผู้ผลิตเรือขนส่งสินค้าก็สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทย และมีความสนใจร่วมมือกับประเทศไทยในการพัฒนาบุคลากรทางด้านอุตสาหกรรมการเดินเรือ

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวถึงผลการเดินทางไปชักชวนการลงทุนที่อิตาลีว่า จากการพบปะหารือบริษัทดาเนียเล่ ผู้ผลิตเครื่องจักร อุปกรณ์และโลหะ ซึ่งได้เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว ยืนยันว่ายังคงใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย และได้ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดการส่งออกสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยจากมูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ เป็น 900 ล้านดอลลาร์ และบริษัทยังมีนโยบายขยายการลงทุนเพิ่มในไทยอีกด้วย

ส่วนการหารือกับบริษัทชั้นนำในสวิตเซอร์แลนด์ พบว่า บริษัทผู้ดำเนินการวางท่อขนส่งสินค้าและระบบรางในการถ่ายสินค้าสนใจจะลงทุนในไทย และบริษัทผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการขนส่งมวลชนทางเรือ รถบัส รถเมล์ ก็แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในไทยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ