นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ มีมติเห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง และมอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกานำไปจัดทำรายละเอียดถ้อยคำต่าง ๆ โดยให้ใช้ร่างฯ ฉบับของกระทรวงพาณิชย์เป็นหลัก คาดว่าขั้นตอนของกฤษฎีกาจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนก่อนเสนอกลับมายังครม.อีกครั้ง
สำหรับประเด็นที่ให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปตรวจสอบ คือ การกำหนดขนาดของห้างร้าน รวมถึงการกำหนดยอดขาย ส่วนการตั้งคณะกรรมการคาดว่าจะจัดตั้งในรูปแบบของคณะกรรมการกลาง แต่จะไม่มีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด เพียงแต่จะให้เป็นคณะอนุกรรมการของส่วนกลางเท่านั้น
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่าควรจะมีการเร่งรัดบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวโดยเร็ว เนื่องจากปัจจุบันการขยายสาขาของธุรกิจค้าปลีกค้าส่งขนาดใหญ่ต่างเพิ่มปริมาณขึ้นอย่างรวดเร็วในทั่วประเทศ โดยจะเห็นได้จากปีนี้ร้านค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่ เช่น บิ๊กซี คาร์ฟูร์ เทสโก้โลตัส เป็นต้น มีสาขารวมกันทั่วประเทศแล้วถึง 9,900 สาขา จากปีก่อนที่มี 8,900 สาขา ส่วนร้านโชว์ห่วยมีอยู่ 290,000 ร้าน และร้านค้าปลีกรายย่อยอีกราว 100,000 ร้าน
ส่วนการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านโชว์ห่วยนั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องจัดตั้งกองทุนนี้ขึ้นแล้ว เพียงแต่รัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือและสนับสนุน โดยดำเนินการภายใต้คณะกรรมการส่งเสริมการค้าปลีก ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะมีงบประมาณมาช่วยสนับสนุนในจุดนี้